[Fic Kuroko no Basket] The Satan
Paring : Akashi x Kuroko ( Akakuro)
Rate : Nc-17 , Horror , thriller
Story : blood_hana
จากฟิคสดเมื่อคืนเอามาเป็นฟิคยาวแล้วค่ะ แรงบันดาลใจจากหนังเรื่อง The last exocism มี 2 ภาคจบน่อ
แล้วจะรู้ว่า ปิศาจนี่คุกคามโคตรรรรรรรรรรร
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
Chapter 6
“แฮ่ก!!!แฮ่ก!!!”
ลมหายใจถี่หอบแรงขึ้นเรื่อยๆ ขาเรียวเล็กขยับวิ่ง..และวิ่ง…จนเหงื่อโทรมกาย ขาเพรียวใต้กระโปรงชุดนอนสีขาวยาวคลุมเข่าเปียกชื้นด้วยหยาดเหงื่อ ความเหนื่อยล้าเป็นอุปสรรคต่อความเร็วที่มีในที่สุดเท้าทั้งคู่ชะลอลงเป็นก้าวเดินสองถึงสามก้าว มือเรียวบางวางทาบเสาไฟต้นสูงริมถนนสักต้น อีกมือยกขึ้นมากุมอกโก่งตัวอ้าปากตักตวงเอาอากาศเข้าปอดให้สุด
หนี..เราต้องหนี!!!
นัยน์ตาสีฟ้ากลมโตฉายแววอ่อนล้า มองเงาตัวเองทอดยาวบนถนน..ก่อนจะค่อยๆเงยหน้าขึ้น สำรวจมองสถานที่ๆที่เธอยืนอยู่ ณ เวลานี้หลังจากวิ่งเตลิดออกจากสถานบำบัดจิตเยาวชนหญิง
ความกลัวทำให้เธอขาดสติ ที่นี่คือที่ไหนก็ไม่อาจรู้ได้
ตะวันเริ่มปริ่มขอบฟ้ามอบความสว่างเล็กน้อย ท้องนภาปรากฏริ้วสีโทนอ่อนไล่เฉดสีทึบเข้มทีละนิดๆ และนั่นทำให้ดวงเนตรพร่ามัวได้เห็นโบสถ์เล็กๆชั้นเดียวล้อมรั้วไม้ทาสีขาว ตราสัญลักษณ์ไม้กางเขนติดตั้งเหนือบานประตูไม้ขนาดใหญ่ นี่สิ่งเดียวที่คุโรโกะ เท็ตสึยะ ปรารถนา..และหวังพึ่งพาอยู่ตรงหน้าแล้ว เธอสะอื้นข่มความสั่นกลัวเอาไว้แล้วรวบรวมกำลังอีกอึดใจก้าวเร็วๆตรงไปยังหน้าบานประตู
แอ๊ดดดด
หลังบานประตู เป็นทางเดินขนาบซ้ายขวาด้วยเก้าอี้ยาวจำนวน 7 แถว ทอดยาวไปสิ้นสุดที่ลานทำพิธีของบาทหลวง เท้าเปลือยเปล่าเขรอะดินมีแผลถลอกเล็กน้อยขยับก้าวไปในโบสถ์อย่างช้าๆ ใบหน้าจืดจางล้อมเส้นผมสีฟ้ายาวถึงสะโพกยุ่งกระเซิงเหม่อมองรูปแกะสลักด้วยหินอ่อนเป็นบุรุษผู้ถูกตรึงด้วยไม้กางเขน โดยมีรูปวาดฉากด้านหลังเป็นเทพยดาผู้ลงจากสวรรค์ด้วยปีกสีขาวบริสุทธิ์ หลับตาด้วยความโทมนัสรอรับดวงวิญญาณของบุตรแห่งพระเจ้าที่เสียสละลงมายังโลกมนุษย์เพื่อไถ่บาป
“พระองค์..ฮึก..ด..ได้โปรดช่วยลูกด้วย” คุโรโกะทรุดนั่งลงกับเก้าอี้หน้าสุดของแถว ยกมือประสานไว้กับอก วิงวอนขอความเมตตาจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตัวแทนแห่งความดีงามทั้งมวล
..พระเจ้า..
“มาหาพระองค์แต่เช้าเช่นนี้ ท่าทางลูกจะมีเรื่องทุกข์ในมากสินะ” เสียงเรียบแต่เปี่ยมเมตตาจิตดังขึ้น คุโรโกะสะดุ้งตกใจหันไปมองต้นเสียงพบบาทหลวงหนุ่มอายุระนามราวๆ 20 กว่าปีในชุดคลุมสีดำยืนออกมาจากห้องสารภาพบาป ดวงตาสีขี้เถ้ากับเส้นผมสีเดียวกันดูสุขุมเยือกเย็นพิศมองเด็กสาวสภาพมอมแมมไปทั่วทั้งร่าง แถมยัง..มีรอยเลือดกระเซ็นตามชุดนอนกระโปรงยาวพร้อยลูกไม้ชวนฉงน
“พ่อชื่อมายุสุมิ จิฮิโระ เป็นบาทหลวงประจำสถานที่แห่งนี้” บาทหลวงหนุ่มแนะนำตัวเอง ก่อนเดินเข้ามาใกล้เด็กสาวแล้วนั่งลงข้างๆ “มีเรื่องอันใดไม่สบายใจ บอกพ่อได้นะ”
ฝ่ามือเรียวยาววางลงบนมือเล็กๆที่กุมกันแน่นจนสั่นระริกบนตัก คุโรโกะเม้มปากเป็นแนวเส้นด้วยความตึงเครียดกับสิ่งที่พบเจอและหวาดผวาเกินกว่าจะนึกถึง อยากจะลืมเลือนแต่ก็ไม่อาจขจัดออกไปจากใจได้ยิ่งรู้แน่ชัดว่า ราชาปิศาจตนนั้นมีตัวตนอยู่จริงอย่างที่เธอเข้าใจแต่แรก..เธอยิ่งอับจนหนทางไร้ซึ่งแสงสว่าง ไม่รู้จะหันไปพึ่งใคร
ไม่มีใครจะยอมเชื่อเรื่องเหล่านี้..จะมีก็เพียงแค่สาวกของพระผู้เป็นเจ้า
“ข..เขา..เขาตามล่าหนู” ในที่สุด..เด็กสาวที่เอาแต่เงียบงันยอมเปิดปากพูดทั้งเสียงสั่นพร่า ทุกคำที่เอ่ยเอื้อนบีบแน่นเป็นก้อนในลำคอจนเจ็บไปหมด น้ำตาร่วงหล่นกระทบฝ่ามือแกร่งของบาทหลวงหยดแล้วหยดเล่าเท่ากับความกลัวที่มีต่อสิ่งเลวร้ายที่ไม่อาจต่อกรได้
“ข..เขาไม่..ฮึก..ไม่ปล่อยหนู..หนูควรจะทำ..ย..ยังไงดี..”
“……”
บาทหลวงมายุสุมินิ่งเงียบหลังรับฟังสิ่งที่คุโรโกะบอกเล่า สรรพนามแทนตัวภัยคุกคามที่เธอไม่กล้าพอที่เอ่ยนามกับสถานะเหล่านั้นออกมา กลัวจะถูกคนๆนี้หาว่าเป็นบ้า แม้ว่าสาวกของพระผู้เป็นเจ้าจะศรัทราเหล่าคำสอนของพระองค์ แต่เรื่องภูตผีปิศาจใช่ว่าจะเชื่อว่ามีอยู่จริงทุกคน
“ไม่มีอะไรต้องกังวลไป ตราบใดที่ลูกมีศรัทรา ก็ไม่มีอะไรทำร้ายลูกได้” มือแกร่งออกแรงบีบมือเล็กๆมากขึ้นแล้วปลอบโยนต่อ
“ปล่อยทุกอย่างให้เป็นไปตามกลไก..ยิ่งลูกฝืนเท่าไหร่ก็จะยิ่งทรมาน ยิ่งหนีเท่าไหร่ ‘เขา’ ก็พร้อมที่จะตามหาลูกทุกเมื่อ”
ดวงหน้าหวานขมวดคิ้วเล็กน้อยเอะใจในวาจาแปลกประหลาดเหล่านั้น เธอค่อยๆเงยหน้าขึ้นหันไปมองหน้าคมไร้อารมณ์ค่อนข้างจืดจางจนอาจไม่ทันสังเกตเช่นเดียวกับเธอ ดวงเนตรสีเทานิ่งเรียบไร้แววสดใสอย่างที่คนทั่วไปควรจะมี..ดูลึกลับซับซ้อนยิ่งมองยิ่งสัมผัสได้ถึงความหนาวเย็น..เหมือนกับ…
..แววตาของปิศาจ..
คิดเช่นนั้นความระแวงสงสัยก่อกุมจิตใจ จากที่เคยรู้สึกสงบวางใจเมื่อครู่ตอนนี้เริ่มกลับมาหวาดหวั่นอีกครั้ง เด็กสาวผมสีอ่อนหมายชักมือกลับ ทว่า!!บาทหลวงมายุสุมิกลับบีบแน่นจนยากสลัดหลุด
“เขาพร้อมที่ทนรอลูกเสมอ..ไม่ว่าจะกี่ภพกี่ชาติหรืออีกหมื่นปีแสง ลูกหนีเขาไม่พ้นหรอก” นัยน์ตาสีเทาถูกกลืนกลายเป็นสีดำสนิททั้งลูกตา ปากหนาแสยะยิ้มกว้างวิปลาสแผดเสียงหัวเราะทุ้มคำรามดังกึกก้องจนข้าวของภายในโบสถ์สั่นไหว รูปสลักองค์พระเยซูแตกเป็นรอยร้าวยาวลงจากลำคอไปถึงปลายเท้าที่ถูกตรึงด้วยไม้กางเขน แจกันดอกไม้ขนาบซ้ายขวาตรงลานทำพิธีล่วงหล่นตกมาแตกกระจายบนพื้น
“ปล่อยฉัน!!!!”
คุโรโกะออกแรงกระชากแขนดึงมือให้หลุดจากอีกฝ่าย แต่แรงบีบของบุรุษ..ไม่สิ..แรงบีบของสิ่งที่สิงสู่ในร่างบาทหลวงมากมายมหาศาลยิ่งกว่าคีบ บีบแน่นจนเจ็บร้าวไปถึงกระดูก ใบหน้าหวานล้อมเส้นผมสีฟ้ายาวยุ่งเหยเก่และที่ตกใจกว่าคือบาทหลวงมายุสุมิกระชากเธอเข้ามาใกล้จนใบหน้าห่างกันไม่กี่เซน ลมหายใจเย็นรดหน้าเข้าออกเป็นจังหวะชวนขนลุกชู่ไปทั่วหลังต้นคอ
“ต่อให้เธอดิ้นรนหนีผมเท่าไหร่ ผมก็ตามเธอไปเท็ตสึยะ”
เสียงนั่น..ไม่ใช่เสียงของมายุสุมิ เสียงทุ้มเปี่ยมอำนาจเย็นชากระซิบเอ่ยกับเธอผ่านปากของบุรุษในคราบบาทหลวง นัยน์ตาสีดำทั้งดวงค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นเนตรสีแดงทับทิบกับสีอำพันเหมือนงู เบิกโพล่ง ปากแสยะยิ้มฉีกกว้างไปถึงใบหูทำเอาดวงหน้าคมของหลวงพ่อมายุสุมิดูวิปริตสยดสยอง
“เธอคือผู้หญิงที่จะคลอดลูกให้ผม..อ้าขาให้ผมย่ำยีไปชั่วนิจนิรันดร์!!!”
“ออกไปจากชีวิตฉัน!!!อาคาชิ!!!!” คุโรโกะแผดเสียงลั่น มือบางคว้าหยิบเอาเชิงเทียนที่อยู่บนโต๊ะด้านหลังฟาดเข้ากลางศีรษะอีกฝ่าย บาทหลวงมายุสุมิปล่อยมือเธอฉับพลันยกมือขึ้นมากุมหัวที่เลือดอาบทั่วใบหน้า เด็กสาวทิ้งเชิงเทียนลงกับพื้นแล้ววิ่งหนีออกไปจากโบสถ์
“เธอหนีราชาของพวกเราไม่พ้นหรอก คุโรโกะ เท็ตสึยะ!!!” มายุสุมิที่คืนสติวิ่งมาตรงประตูโบสถ์ ตะโกนไล่ตามหลังเด็กสาวพร้อมคำรามเสียงหัวเราะบ้าคลั่ง
กา!!!!กา!!!!กา!!!!!กา!!!!กา!!!!กา!!!!!กา!!!!
อีกาบินเหนือน่านฟ้ายามรุ่งสางนับร้อยตัว คุโรโกะหน้าซีดเผือด ปากสั่นระริกจนได้ยินเสียงฟันขบกันก้องในหัว ดวงตาสีแดงของอีกาพุ่งตรงมาที่เธอและ..
โพล่ะ!!!!
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”
อีกาบินลงกระแทกพื้นตายต่อหน้าต่อตา..ตัวแล้วตัวเล่าในสภาพคอหักบ้าง ตาถลนบ้าง ไส้ทะลักบ้าง คุโรโกะไม่อาจทนยืนมองสิ่งเหล่านี้ได้อีกต่อไป เธอหวีดร้องและวิ่งหนีไปร้องไห้ไปเหมือนคนบ้า ยกมือปิดหัวหลบอีกาที่บินโฉบไปมาร่วงตายเป็นระนาวตลอดเส้นทางที่เธอไป ไม่ว่าจะทางไหนๆก็ตาม
สถานที่ปลอดภัยที่สุดเวลานี้คือ..สถานบำบัดจิตเยาวชนหญิง..
คุโรโกะวิ่งกระหืดหอบมาจนถึงทางเข้าตึกสูง 4 ชั้นที่ใช้เป็นสถานบำบัดจิตที่เธอพักอาศัย มือเรียวผลักประตูรั้วเหล็กสีดำวิ่งเข้าไปตามทาง ในขณะเดียวกันเหล่าสาวๆเพื่อนร่วมกลุ่มเข้ารับการรักษานำทีมโดยอาโอมิเนะ ไดกิ เดินออกมาจากประตูทางเข้า พร้อมอาวุธในมือ ไม่ว่าจะไม้ม็อบ ไม้กวาง หรือแม้แต่พลั่วทำสวน
“ยังมีหน้ากลับมานี่อีกเหรอเท็ตสึ!!!”
“อาโอมิเนะคุง?”
คุโรโกะชะงักฝีเท้าทันทีเมื่อสิ้นเสียงคำรามกรรโชกจากปากสาวผิวสีทรงโต ดวงเนตรสีฟ้ากวาดมองไล่สบตาเพื่อนๆที่คอยดูแลเคียงข้างให้กำลังใจมาตลอดระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา บัดนี้สายตาของทุกคนจ้องมองเธอเปี่ยมไปด้วยความหวาดกลัว
“ทำไม..ทุกคนถึง..”
“อย่าเข้ามานะยัยฆาตกร!!!” อาโอมิเนะแผดเสียงแหลมชี้กรรไกรตัดหญ้าขู่ ขาเพรียวมีกล้ามมัดพองามกับรองเท้าบาส Nike ก้าวถอยหลังอย่างระแวดระวังเมื่อคุโรโกะทำท่าจะขยับตัวเข้ามาใกล้ พอเธอหันไปมองเพื่อนอีกสองคนที่สนิท..คางามิกับอิซึกิเองจ้องมองมาด้วยความลังเลหลบซ่อนอยู่หลังกลุ่ม สาวๆสองคนนั้นสะดุ้งเมื่อสบตาเธอแล้วก็รีบหลบหน้าไปทางอื่น
“เธอมันยัยแม่มดถูกผีสิง แถมยังเผาบ้านตัวเอง ฆ่าพ่อฆ่าแม่ฆ่าบาทหลวงจนตาย!!”
“ม..ไม่ใช่นะ..ฟังฉันก่อน..ไม่ใช่ฉัน”
“ไม่ใช่เธอแล้วจะเป็นใคร!!!เธอมันตัวประหลาด..ที่แท้..ทำตัวจืดชืดอ่อนแอเพื่อหลอกให้พวกเราตายใจ แล้ววันหนึ่งก็จะเล่นงานพวกเราทุกคนเหมือนที่อิสึโมะสินะ!!!”
“ได้โปรด..ฮึก..ฟังฉัน”
“ดูนั่นสิ!!เสื้อมอมแมมเปื้อนเลือดนั่นมันอะไร!!ยัยนี่ต้องไปฆ่าคนมากินแน่ๆ!!!ยัยปิศาจ!!!”
“ม..ไม่..ไม่ใช่นะ..”
ความไว้วางใจถูกทำลายหายไปหมดสิ้น คุโรโกะพยายามจะอธิบายในสิ่งที่เธอไม่ได้เป็นคนกระทำ แต่ไม่ว่าจะพยายามแหกปากเถียงจนคอเป็นเอ็น กลุ่มเพื่อนๆตรงหน้าก็หาได้รับฟัง
“พอได้แล้ว!!!!” เสียงตวาดดังลั่นจากด้านหลัง ทุกคนชะงักนิ่งหยุดส่งเสียงโห่ไล่
“ค..คุณหมอ..ช่วยฉันด้วยค่ะ..ฉ..ฉันไม่ได้ทำร้ายพ่อแม่นะคะ..ม..ไม่ใช่ฉัน” คุโรโกะโผเข้าไปกอดร่างสูงสวมแสวตเตอร์ไหมพรมสีเขียวขี้กา ร้องไห้ฟูมฟายขอความเห็นใจ
“ไม่เป็นไร..คุโรโกะใจเย็นๆไว้นะ” หมอมิโดริมะวางมือบนไหล่บอบบางสัมผัสได้ถึงร่างที่สั่นเท้าไปทั้งตัว
“ทุกอย่างจะดีขึ้น แค่เธอไปสถานีตำรวจกับฉันก็พอ” สิ้นคำกล่าว คุโรโกะชะงักนิ่งค่อยๆเงยหน้าขึ้นช้าๆสบตาสีเขียวหลังแว่นทรงเหลี่ยมกรอบดำที่ยากแก่การอ่านเดาความคิด..แต่จากคำพูดเช่นนั้นหญิงสาวถึงกับหน้าซีดเข้าใจสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการจะสื่อ เธอขยับตัวเดินถอยห่างจากหมอหนุ่มที่ไว้วางใจที่สุดเสมือนพ่อคนที่สองที่รักและเคารพ
คนดีอีกหนึ่งที่เธอเทิดทูน
“แม้แต่..คุณหมอเองก็..”
“ฟังนะคุโรโกะ..ฉันไม่ได้หมายความว่าเธอเป็นคนร้าย แค่ไปยืนยันความบริสุทธิ์ ให้การกับตำรวจถึงสิ่งที่เกิดขึ้นวันนั้น” มิโดริมะอธิบาย..ไม่สิ..พยายามหว่านล้อมมากกว่า
ไปให้ปากคำ..หรือบางทีอาจจะเป็นการหลอกจับเข้าคุกไปเลยก็ได้..
ถ้าเป็นแบบนั้นก็จะไม่ได้ออกมาโลกภายนอก..จะไม่ได้เจอกับ ‘คิเสะคุง’ อีก
“ไม่นะ..ไม่..ไม่!!!!!” สาวจืดจางที่มักสงบนิ่งแผดเสียงแสบแก้วหู ยกมือจิกเส้นผมบิดไปมาจนเจ็บหนังหัวนั่นก็ไม่เท่าหัวใจที่ถูกทุบตีทางความคิดด้านลบของผู้คนรอบกายจนบอบช้ำ
“บอกแล้วไงว่าไม่ใช่ฉัน!!ฉันไม่ได้เป็นคนทำ!!อาคาชิต่างหาก!!!!มันสิงร่างฉัน!!มันเป็นราชาปิศาจไม่เข้าใจรึไง!!!”
“ยัยนี่มันบ้าจริงๆด้วย!!!อาคาชิบ้าบออะไรไม่รู้!!!!” สาวผิวสีผมสีน้ำเงินสั้นสำทับชี้นิ้วไปยังร่างเล็กในชุดนอนกระโปรงมอมแมมสกปรก ริมฝีปากอิ่มขบแน่นหรี่ตามองขยะแขยง..ไม่คิดเลยว่ารูมเมทที่เธอคอยต้อนรับดูแลใกล้ชิดจะกลายเป็นตัวสติสตางค์ไม่เต็มเต็งหลงใหลในศาสตร์มนต์ดำน่าเกลียดน่ากลัวแบบนี้!!!
“หุบปากนะ!!!!”
“ฉันไม่หุบจะทำไม!!เท็ตสึ!!!”
“พอที!!พอได้แล้ว!!!”
“เธอนั่นแหละเลิกทำเป็นใสซื่อได้แล้วยัยปิศาจ!!!!”
“พอกันที!!!พวกแกทุกคนไปตายซะ!!!ไปตายกันให้หมดเลย!!!!”
สิ้นเสียงหวานตะโกนร้องดังลั่น สาปแช่งก่นด่าเหล่าผู้คนในสถานบำบัดจิตแห่งนี้ สตรีผิวสีแทนผมสั้นชะงักนิ่ง..จู่ๆก็ทรุดลงไปนอนกับพื้นสำรอกเลือดออกมา
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดด”
“อาโอมิเนะ!!!!!” คางามิกับอิซึกิแทรกกลุ่มผู้หญิงที่เข้าแถวออตรงหน้าเข้ามาพยุงร่างสะโอดสะองในชุดเสื้อกล้ามสีดำรัดรูปกับกางเกงยีนส์ขาสั้น คุโรโกะเบิกตาโพล่งตื่นตระหนกจ้องมองรูมเมทร่วมห้องกำลังสำลักไอออกมาเป็นเลือดไม่หยุดหย่อน
“ก..แก..นี่แก..ทำ..” นัยน์ตาสีไพลินจ้องเขม็งเคียดแค้น พยายามชี้นิ้วตรงไปยังสาวร่างเล็กผมสีอ่อนยาวยุ่ง
“ม..ไม่ใช่นะ..” ดวงหน้าจืดจางซีดเผือดส่ายหน้าช้าๆ หันมองรอบกาย ดวงตาทุกคู่จ้องมองเธออย่างหวาดผวา แม้แต่คางามิกับรุ่นพี่สาวหมวยอิซึกิก็ด้วย
แซ่ก!!!แซ่ก!!!!แซ่ก!!!!
กา!!!!!!!!!!!!!!กา!!!!!!!!!!!!!!กา!!!!!!!!!!!!!!กา!!!!!!!!!!!!!!
อีกานับร้อยโผบินออกจากต้นไม้ในสวนสถานบำบัดจิตพุ่งเข้ามารุมตีร่างของสาวๆ ผู้ป่วยทางจิตไม่เว้นแม้แต่หมอมิโดริมะ เจ้าของเรือนผมสีฟ้ายาวคลอสะโพกยกมือปิดปากแน่น มองดูคนรู้จักกำลังถูกอีกาสีดำขลับฉีกเนื้อสดๆออกมาคาบกลืนเข้าจงอยปากดำเมี่ยมของมัน กลิ่นคาวคลุ้งเลือดลอยแตะจมูกโลหิตสีแดงฉานเจิ่งนองพื้นกระจายตัวเป็นวงกว้างท่ามกลางเสียงกรีดร้องเจ็บปวดแทบขาดใจของทุกคน
“มะ..ไม่..ไม่ใช่ฉัน..ไม่ใช่ฉัน..ไม่ใช่ฉัน!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!” เด็กสาววิ่งเตลิดหนีออกไป
“ไปให้พ้น!!อย่ามายุ่งกับฉัน!!!!” อีกาอีกร้อยพันเกาะตามเสาไฟฟ้า ตึกอาคารขนาบถนนใหญ่ทั้งซ้ายขวาพากันกระพือปีกอ้าปากส่งเสียงร้องใส่เธอ แล้วบินชนกระจกร้านบ้าง..จนกระจกรถจนทำให้เสียหลักขับพุ่งชนกันเองเกิดอุบัติเหตุวุ่นวายในทุกๆที่ ไม่ว่าคุโรโกะจะหนีไปไหนก็ตาม
“นี่มันอะไรกันเนี่ย!!!”
“อีกามาจากไหนกัน!!!!”
ชาวเมืองขวัญกระเจิงแตกตื่นกันหมด อีการ่วงหล่นมากระแทกพื้นตายตัวแล้วตัวเล่าไม่มีหยุดหย่อน ทุกคนพากันวิ่งตื่นตระหนกชลมุนวุ่นวาย ชนกระแทกเข้าร่างของเด็กสาวจืดจางกระเด็นออกไปยังถนนใหญ่ หลังฟาดเข้ากับพื้นอย่างจังจนเจ็บร้าว เธอค่อยๆหยัดกายหมายลุกขึ้น
ปี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
“ระวัง!!!!!!!!!!!!” รถตู้วิ่งตรงมาด้วยความเร็วสูงสะท้อนในดวงเนตรสีฟ้าอ่อนกลมโต..หลบไม่ทันแล้ว!!!
โครม!!!!!!!!!!!!!!!!
รถตู้พุ่งเข้าชนหักหลบพุ่งเข้าชนกับเสาไฟอัดกระแทกยาวไปถึงร้านดอกไม้ริมถนน ก่อนจะเกิดระเบิดไฟลุกท่วม
“ทำใจดีๆไว้นะ คุโรโกะ เท็ตสึยะ” ใครบางคนเข้ามาช่วยชีวิตเธอไว้ทัน..ดวงหน้าจืดจางละสายตาจากรถที่เกือบคร่าชีวิตตัวเองมายังบุคคลร่างสูงที่โอบอุ้มเธอในอ้อมแขน สวมเสื้อกันหนาวแขนยาวมีฮูทปิดใบหน้าสีดำสนิท
“คุณ..คือ..คนที่เห็นหน้ากระจกร้านวันนั้น..”
บุรุษปริศนาที่เข้ามาจ้องหน้าระยะประชิด ขณะกำลังเช็ดกระจกในร้านคัพเค้ก
“โทษทีที่วันนั้นทำให้เธอตกใจ ฉัน ฮิมุโระ ทัตสึยะ เป็นบาทหลวงจากวาติกัน” มือแกร่งดึงฮูทออกเผยใบหน้าคมหล่อติดสวยกับไฝใต้ตาทรงเสน่ห์ ดวงเนตรสีดำเช่นเดียวกับเส้นผมปรกลงมาปิดดวงตาข้างซ้าย ปากหนาได้รูปส่งยิ้มละมุนพลางประคับประคองเธอให้ลุกขึ้นยืนจากพื้นถนน มือแกร่งล้วงไปหยิบเอาบางสิ่งในกระเป๋าสะพายข้างออกมา เป็นผ้าคลุมสีขาวโปร่ง..เขาสะบัดคลี่ออกแล้ววางคลุมศีรษะเด็กสาวเรือนผมสีฟ้าเอาไว้
“นี่เป็นผ้าแพรศักดิ์สิทธิ์จะช่วยซ่อนเธอจากสายตา ราชาปิศาจอาคาชิ ได้ระยะหนึ่ง” ฮิมุโระอธิบาย
“เดี๋ยวนะคะ..คุณพูดว่า ราชาปิศาจ “ คุโรโกะทวนคำอีกฝ่ายด้วยสีหน้าคาดไม่ถึง
“หลวงพ่อคิโยชิส่งจดหมายนกพิราบเล่าเรื่องราวของเธอมาให้ก่อนวันที่เขาจะตาย ดูเหมือนเขาจะรู้ว่าปิศาจตนนี้เป็นระดับสูงมีพลังมากมายเกินกว่าหลวงพ่อธรรมดาเพียงคนเดียวจะรับมือไหว ขอโทษที่มาหาช้าทางเราต้องการตรวจสอบให้แน่ใจว่าเธอใช่เด็กสาวคนนั้นที่หลวงพ่อคิโยชิบอกจริงไหม…แต่ไม่มีอะไรต้องห่วงแล้วฉันถูกส่งมาเพื่อพาเธอกลับไปยังวาติกัน เราจะจบเรื่องอาคาชิที่นั่น!!!” มือแกร่งจับไหล่เด็กสาวบีบให้กำลังใจ รถสีดำขับโดยบาทหลวงต่างชาติวิ่งฝ่าถนนที่กำลังสับสนวุ่นวายกับอีกานับร้อยที่บินออกอาละวาดก่อนจะจอดสนิทตรงหน้าคนทั้งสอง ฮิมุโระเปิดประตูหลังแล้วจับจูงพาเด็กสาวขึ้นรถ
“เดี๋ยวคะ!!!” ร่างบอบบางชะงักขืนตัวไม่ยอมไปกับอีกฝ่าย
“มีอะไรเหรอ?” ฮิมุโระเลิกคิ้วสูงงุนงง
“ฮิมุโระคุงบอกว่า อาคาชิมองเห็นฉันตลอด ถ้าอย่างงั้นเขาก็ต้องเห็นทุกคนที่อยู่รอบตัวฉัน..” คุโรโกะกล่าวทั้งเสียงสั่นเครือ
ถ้าเป็นเช่นนั้น..แสดงว่า..คิเสะ เรียวตะ ก็…
“ฮิมุโระคุง ช่วยคิเสะคุงด้วย.. เขาเป็นคนสำคัญของฉัน..ป..เป็นคนรักของฉัน” มือเล็กบางกำชายเสื้อกันหนาวของอีกฝ่ายแน่นจนยับยู่ วอนขอความช่วยเหลือให้บาทหลวงจากวาติกัน ใบหน้าคมติดสวยเบิกตาโพล่งตกตะลึง เหงื่อกาฬไหลย้อยมุ่นคิ้วเครียดพยักหน้าเข้า
“เข้าใจล่ะ!!ถ้างั้นต้องรีบแล้ว!!!” ฮิมุโระหันไปออกคำสั่งกับบาทหลวงคนขับเป็นภาษาอังกฤษ แล้วพาเด็กสาวผู้ถูกราชาแห่งนรกปรารถนาที่จะเอาตัวและดวงวิญญาณไปเป็นของตนเอง โดยไม่สนว่าจะทำให้โลกใบนี้พังพินาศแค่ไหนก็ตาม ขึ้นรถยนต์ขับหักเลี้ยวออกไปตามท้องถนนด้วยความเร็วสูงสุด พุ่งไปยังคอนโดมิเนี่ยมใจกลางกรุงโตเกียวที่อยู่อาศัยของนายแบบหนุ่ม
.
.
.
รถเบนซ์สปอร์ตสีขาวจอดลงสนิทหน้าคอนโดสูง 10 ชั้นใจ ชายหนุ่มผมดำตัวเล็กแต่ซ่อนร่างกายกำยำไว้ในเสื้อสูทสีดำเหลือบมองคนหนุ่มผมสีทองสว่างใส่เจลเสยเรียบข้างกายในชุดสูทสีดำลายทางสีเทาปลดกระดุมสองเม็ดเผยแผงอกแกร่ง
“ขอบคุณนะรุ่นพี่ที่มาส่ง” คิเสะ เรียวตะปลดสายเข็มขัดรถออกเปิดประตูก้าวลงจากรถ โบกมือล่ำลาขอบคุณผู้จัดการส่วนตัว“คิเสะ..แกคิดดีแล้วเหรอที่จะซื้อเจ้านี่..” คาซามัตสึ ยูกิโอะ หลุบตาลงไปยังกระเป๋าพลาสติกล็อกแน่นหนาสีดำขยาดเล็กในมือนายแบบหนุ่มชื่อดัง ตาสีทองเรียวคมหลุบมองสิ่งนั้นแล้วยิ้มบางๆออกมา
“ผมคิดดีแล้วล่ะ..ไม่ต้องห่วงหรอกน่า ผมเอาไว้แค่ป้องกันตัวเฉยๆไม่เอาไปกรอกปากตัวเองหรอก” คำตอบกลับกลั้วเสียงหัวเราะไม่ได้ทำให้คาซามัตสึใจชื้นขึ้นเลย คนหนุ่มขมวดคิ้วสีเข้มหนาเป็นปมแต่เมื่อเห็นสายตาจริงจังบนดวงหน้าหล่อเหลาสาวกรี๊ดแตกจนน่าประเคนถีบใส่แบบนั้น..เขาเลยได้แต่ถอนหายใจเฮือกใหญ่
“ตามใจแกก็แล้วกัน วันนี้ก็นอนพักผ่อนซะพรุ่งนี้มีคิวถ่ายแบบที่โอกินาว่าอีก”
“ครับบบบ รุ่นพี่”
หลังจากที่ออกเดินทางไปร่วมงานเดินแบบเปิดตัวห้างสรรพสินค้า C ชื่อดังแห่งโตเกียวเมื่อวาน กว่าจะกลับมาถึงคอนโดก็ปาไป 8 โมงเช้าแล้ว ไหนจะรถติดขนัดเนื่องจากผู้คนแห่มาเที่ยวห้างใหม่นี่อีก คิเสะไขกุญแจก้าวเข้ามาในห้องคอนโดของตนเองไม่เปิดไฟใดๆทั้งนั้นแล้วเดินปรี่ตรงไปยังเตียงคู่ใหญ่ไซส์คิงทิ้งตัวลงนอนแพ่หราทันที
“คิดถึงเตียงจัง” เสียงทุ้มสดใสกล่าวอู้อี้กับหมอนใบหนานุ่ม ก่อนจะพลิกกายลงมานอนหงายยกมือก่ายหน้าผากเหม่อมองเพดานห้องคุ้นตา พลังกายเริ่มค่อยๆฟื้นตัวมาทีละนิดร่างโปร่งยันกายขึ้นมานั่งขัดสมาธิบนเตียงหยิบเอากระเป๋ากล่องพลาสติกมาวางไว้ตรงหน้า ปลายนิ้วแกะปลดล็อกทั้งสองออกแล้วเปิดฝาขึ้นมาหยิบเอาสิ่งที่วางอยู่ในนั้นขึ้นมาสำรวจมอง
ปืนสั้นจุด 33ม. ขนาดกำลังพอดีมือ
“คุโรโกจจิ” ชายหนุ่มนึกถึงเด็กสาวตัวเล็กๆบอบบาง เส้นผมสีฟ้าอ่อนยาวแข็งกระด้างยามสัมผัสแต่ช่างน่าถวิลหา ใบหน้าอ่อนเยาว์จืดจางหาได้น่าสนใจหากมองผ่านๆเพียงคราแรก ทว่า..ยามที่เธอแย้มยิ้มน้อยๆ ช่างสดใสและแสนบริสุทธิ์นัก
วงการบันเทิงมีเพียงภาพมายาล้อมรอบกาย รอยยิ้มเหล่านั้นล้วนเสแสร้งขึ้นมาเพื่อผลประโยชน์
กระทั่ง..เธอคนนี้ได้ปรากฏตัว…ความซื่อตรงนั่นทำให้หัวใจในซ้ายที่ไม่เคยหวั่นไหวกลับเต้นแรงทุกครั้ง
“ฉันอยากจะปกป้องเธอ” คิเสะ เรียวตะกำด้ามจับปืนแน่น..นึกถึงดวงเนตรกลมโตสีฟ้าหม่นหมอง ในแววตานั้นเก็บซ่อนความโศกเศร้า ความเสียใจบางอย่างที่เจ้าตัวยังไม่ยอมบอกให้เขารู้ ยิ่งรู้จักกันไปนานวันเขายิ่งรู้ว่าเธอคนนั้นกำลังหวาดกลัวบางสิ่ง
บางสิ่งที่คุกคามคุโรโกะ เท็ตสึยะ
และไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม..มันบังอาจทำร้ายผู้หญิงที่เรารัก!!!
“ฉันไม่ปล่อยไว้แน่” ปืนพกเล่มนี้มีเพื่อสิ่งนั้น เขาอ้างกับผู้จัดการว่าป้องกันตัวเองที่อาจถูกลอบทำร้ายด้วยชื่อเสียงในวงการที่นานวันจะโด่งดังขึ้น แท้จริงแล้ว..คิเสะ เรียวตะ หมายมั่นจะปกป้องสาวนอกวงการผู้เป็นที่รักต่างหาก
ซ่า…ซ่า….
เสียงคลื่นสัญญาณดังขึ้นจากมุมหนึ่งในโซนห้องนอนของคอนโด ชายหนุ่มรูปงามเลิกคิ้วสูงด้วยความฉงนละสายตาจากปืนมายังโทรทัศน์จอกว้าง LCD ปลายเตียงตั้งบนตู้ไม้เตี้ยๆ จากที่หน้าจอมืดสนิทกลับกลายเป็นเส้นสีเทาดำขาวภาพไม่ชัดเจน
“เห? เราไม่ได้เปิดทีวีนี่?” คิเสะงุนงง..หรือว่าตัวเองจะเผอเรอลืมปิดทีวีเอาไว้ก่อนออกจากห้อง เขาเอื้อมมือไปหยิบรีโมทที่หัวเตียงมากดปุ่มสีแดง
ปิ๊บ!!!
จอทีวีดับลงความเงียบมาเยือนอีกครั้ง แม้แสงอาทิตย์ยามเช้าสาดส่องเล็ดรอดผ่านม่านสีขาวตรงหัวเตียง ก็ไม่อาจเหนี่ยวรั้งคนที่เหนื่อยจนสายตัวแทบขาดให้ตื่นจากอาการง่วงนอนได้ มือแกร่งยกมาป้องปากหาวหวอดจัดหมอนให้เรียบร้อยเตรียมล้มลงนอนทั้งชุดสูทที่ออกไปเดินแฟชั่นตั้งแต่คืนวาน
ซ่า…ซ่า….ซ่า…ซ่า….
ทีวีติดขึ้นมาอีกครั้ง เปลือกตาที่หนักอึ้งต้องฝืนลืมตาขึ้น เด้งตัวมานั่งมองโทรทัศน์หยิบเอารีโมทกดปุ่มปิดรัวๆ ทว่า..กลับไร้ผล
“อะไรกัน!!ถ่านหมดรึไงนะ!!?” เสียงทุ้มสบถเจือหงุดหงิด ตัดสินใจโยนรีโมตทิ้งลงจากเตียงหมายเดินตรงไปถอดปลั๊กออก
พลัน!!!จอทีวีกลับติดขึ้นเป็นภาพชัดเจน..ขายาวชะงักหยุดกับที่หันไปมองจอสี่เหลี่ยมด้วยความฉงนสนเท่ห์ คิเสะถอยหลังกลับไปนั่งปลายเตียงมองดูภาพฉายในทีวีเริ่มต้นที่บ้านไม้สองชั้นล้อมรอบด้วยป่าหนาทึบ..สถานที่ดูยังไงก็ไม่ใช่ในตัวเมืองแน่นอน มุมมองถ่ายเสมือนเป็นการอัดคลิปวิดิโออยู่..ท้องฟ้าในนั้นเป็นสีดำยามรัตติกาล ลมพักเข้าออกแรงจนใบไม้เสียดสี
และ…
กา!!!กา!!!!
อีกาเกาะรายล้อมบ้านหลังนั้นมากกว่าร้อยตัว..เหมือนที่เห็นในสวนสาธารณะวันนั้นไม่มีผิด!!! ภาพในโทรทัศน์ออกทีวีฉายไปเรื่อยๆ นัยน์ตาสีทองคู่คมเบิกกว้างตะลึงในสิ่งที่เห็น เขายกมือขึ้นมาปิดปากพยายามฝืนตัวเองไม่ให้สำรอกของอาเจียนออกมา
“น…นี่มัน..อะไร..กัน”
ภาพของคุโรโกะที่กำลังถูกจับนอนขึงพรืดบนเตียงกำลังทำแท้งโดยบาทหลวงคนหนึ่ง นอกจากนี้..เด็กทารกนั้นยังถูกปลิดชีวิตทันทีหลังตัดสายสะดือออก แสงไฟสลัวจุดดวงส่องสว่างบนเทียนไขมากกว่า 10 ตั้งรอบเตียงเป็นวงกลม เหมือนกับนี่เป็นพิธีกรรมทางศาสนาอะไรบางอย่าง
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด”
ดวงหน้าเรียบไร้อารมณ์นั่นบิดเบี้ยวหวีดร้องเป็นบ้า หน้าแดงก่ำโทรมเหงื่อเส้นผมสีฟ้ายุ่งเหยิงกระจายบนฟูกเตียง…สิ่งที่เห็นจากหน้าจอทีวีเป็นใบหน้าของคุโรโกะ เท็ตสึยะที่คิเสะไม่เคยพบเห็นมาก่อน มือแกร่งบีบแขนตัวเองแน่น ข่มร่างกายสั่นเท้าพยายามฝืนใจดูให้จบ หูอื้ออึงเสียงกรีดร้องที่ดังออกมาจากทีวี ช่างน่าสะพรึงจนขาสั่น นั่งตัวแข็งทื่อ
กึก!!!!
จู่ๆ ภาพคลิปวิดีโอนั่นหยุดชะงักค้างไว้ คิ้วเรียวเลิกสูงประหลาดใจ ดวงเนตรสีอำพันสะท้อนจอทีวี..ก่อนจะหรี่มองลงเมื่อจับสังเกตเห็นบางสิ่งผิดปกติในนั้น..เลยจากเตียงที่กำลังประกอบพิธีกรรมประหลาดประตูห้องนอนของคุโรโกะได้เปิดอ้าออก คิเสะกลืนน้ำใจทำใจกล้าลุกขึ้นจากเตียงก้าวเดินเข้าไปใกล้จอทีวี โน้มตัวลงยื่นหน้าเข้าไปใกล้เพ่งมองสิ่งที่ซ่อนอยู่ในประตู
เงาดำมัวๆเป็นเค้าร่างคนมีเขา ?
เงาดำนั่น…เหมือนขยับเลื่อนเข้ามา..เข้ามาเรื่อยๆราวกับว่ากำลังลอยตัวเข้ามาหาจอ
“อย่า-มา-ยุ่ง-กับ-เท็ต-สึ-ยะ”
“!!!!!!!!!!”
.
.
.
ทันทีที่รถลีมูซีนสีดำจอดสนิทหน้าคอนโด ประตูหลังเปิดออกโดยพลันจากเด็กสาวร่างเล็กบอบบางเรือนผมสีฟ้ายาวยุ่งกระเซิง ตามด้วยบาทหลวงปราบปิศาจฮิมุโระ ทั้งสองวิ่งตรงเข้ามาในคอนโดไม่สนใจว่ายามเฝ้าหน้าประตูจะตะโกนร้องห้ามปรามขอตรวจบัตร พวกเขาตรงไปยังลิฟท์ตัวที่เปิดรออยู่ชั้น 1 แทรกคิวสองแม่ลูกที่ยืนรออยู่เข้าไปแล้วกดปุ่มปิดทันที
ตัวเลขขึ้นเรียงชั้นสูงไปเรื่อยๆ หากแต่ใจที่ร้อนรนของคุโรโกะทำให้ทุกอย่างดูเชื่องช้าไปหมด เด็กสาวเครียดจัดจนเผลอกัดเล็บดังกึกๆๆๆๆ ก้องชัดในตัวลิฟท์
กิ๊ง!!!!!
ในที่สุดก็ถึงชั้นที่ 10 ชั้นที่อยู่ของคิเสะ ประตูลิฟท์ไม่ทันเปิดดี สองหนุ่มสาววิ่งพรวดออกไปตรงไปยังห้องหมายเลข 112
“คิเสะคุง!!ฉันคุโรโกะค่ะ เปิดประตูที!!!” มือเรียวเคาะประตูแรง ทว่า..กลับไร้เสียงตอบกลับ..สาวจืดจางลองออกแรงเคาะอีกรอบตะโกนเรียกอีกฝ่ายก็ยังไม่มีคนมาเปิด
“หรือว่า..คิเสะคุงยังไม่กลับมา..”
“ไม่หรอก..” ฮิมุโระกล่าวทั้งเสียงเย็น มือแกร่งเอื้อมไปจับลูกบิดและ..ออกแรงหมุนเพียงเล็กน้อย
กริ๊ก!!!
“ประตูไม่ได้ล็อก” ดวงเนตรสีดำนิลเผยเพียงข้างเดียวกับไฝใต้ตาเลื่อนไปสบตาสีฟ้าอ่อนกลมโตของหญิงสาว วงแขนแกร่งผลักดันร่างบอบบางให้ไปยืนอยู่ด้านหลัง เขาล้วงหยิบเอา..สร้อยไม้กางเขนโลหะสลักเป็นจี้ลวดลายสวยงามไม่เหมือนไม้กางเขนเรียบๆอย่างที่บาทหลวงทั่วไปใช้กันออกมากำแน่นแล้วค่อยๆเปิดประตูเดินเข้าไปช้าๆ
ติ๋ง…..ติ๋ง….
ในห้องคอนโดเงียบสงัดจนได้ยินเสียงหยดน้ำร่วงหล่นจากก๊อกห้องครัวกระทบอ่างล้างจานชัดเจน กระเป๋าสัมภาระบรรจุเสื้อผ้าวางทิ้งไว้หน้าทางเข้าเล็กๆกับรองเท้าหนังหัวแหลมสีน้ำตาลผูกเชือกวางทิ้งระเกะระกะ แสดงให้เห็นชัดเจนว่าเจ้าของห้องกลับเข้ามาแล้ว
คุโรโกะเดินตามหลังฮิมุโระช้าๆ ทีละก้าวสองก้าว หันไปมองซ้ายทีขวาทีอย่างระแวดระวังไม่ต่างจากบาทหลวงหนุ่มเบื้องหน้า จนในที่สุด..บุรุษผมดำชะงักฝีเท้าลง ดวงเนตรสีนิลสวยเหลือบไปยังประตูส่วนห้องนอนที่แง้มเปิดไว้..เขากลั้นหายใจหรี่ตาระแวงและค่อยๆเดินตรงไปยังส่วนห้องนอนของอีกฝ่าย วางมือลงบนบานประตูออกแรงผลักช้าๆ
แอ๊ดดดดดด
“คิเสะคุง!!” คุโรโกะคลี่ยิ้มโล่งอกทั้งน้ำตาวิ่งตัดหน้าผ่านบาทหลวงฮิมุโระตรงเข้าไปโผเข้ากอดหนุ่มเรือนผมสีทองที่นั่งก้มหน้านิ่ง ซุกหน้าลงกับบ่ากว้างแกร่งอยู่ในอ้อมแขนที่เธอถวิลหา
ดวงตะวันเพียงหนึ่งในชีวิต ที่เข้ามาทลายฝันร้ายให้มลายหายไปสิ้น
“คุโร..โกจจิ?” เสียงทุ้มกระซิบเอ่ยนามแฟนสาวทั้งเสียงแผ่วเบา คุโรโกะถอนอ้อมแขนที่โอบกอดรอบคออีกฝ่าย เธอพยักหน้าตอบรับแล้วจับไหล่คนหนุ่มบีบแน่นอธิบายสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ณ ตอนนี้อย่างรวดเร็ว
“คิเสะคุงตอนนี้ไม่มีเวลามากแล้ว รีบไปจากที่นี้กับฉันค่ะ!!คิเสะคุงอาจจะสับสนแต่ฉันกับฮิมุโระซังจะเล่าทุกอย่างให้ฟังในรถเอง” มือบางจับมือแกร่งแสนอบอุ่นออกแรงดึงให้ลุกขึ้นจากเตียง..ทว่า..ชายหนุ่มผมทองกลับเอาแต่นั่งนิ่งไม่ยอมขยับกายไปไหน
“ฉันรู้หมดแล้วคุโรโกจจิ..ฉันเห็นมาหมดแล้ว” คิเสะพึมพำทั้งเสียงเย็นนิ่งผิดวิสัย
“ฉ..ฉันขอโทษค่ะที่ฉันไม่ได้เล่าให้คิเสะคุงฟัง..ฉันกลัวว่าคิเสะคุงจะหาว่าฉันบ้า” คุโรโกะกล่าวขอโทษอย่างสำนึกผิด
“ฉันต่างหากที่ต้องขอโทษ..คุโรโกจจิ..ฉันผิดเอง ฉันไม่มีค่าพอสำหรับคุโรโกจจิ ความรักของฉันมันไม่อาจเทียบเท่าของ ‘เขา’ ได้เลยแม้แต่นิดเดียว”
“คิเสะคุงพูดอะไรออกมา..” ใบหน้าจืดจางชักสีหน้างุนงงสับสน ฮิมุโระเห็นท่าไม่ดีรีบสาวเท้าเดินเข้ามาใกล้รั้งแขนอรชรอีกฝ่ายให้ถอยห่างจากนายแบบรูปงาม เจ้าของเรือนผมสีทองเงยหน้าขึ้นช้าๆเผยให้เห็นใบหน้าอิดโรยซีดขาว ตาสีอำพันเคยสดใสเจิ่งนองน้ำตาเหม่อลอยราวกับว่ากำลังเพ้อฝันถึงบางสิ่งบางอย่าง ปากหนาได้รูปแย้มยิ้มกว้างอย่างอ่อนโยนอย่างที่เคยมีมา
น่าแปลกที่รอยยิ้มของเขากลับทำให้หัวใจของคุโรโกะไหววูบแปลกๆ
“ลาก่อนคุโรโกจจิ..ฉันรักคุโรโกจจินะ” สิ้นคำพูด มือแกร่งหยิบเอาปืนขึ้นมากรอกปากและเหยี่ยวไก!!
ปัง!!!!!!!
“คิเสะคุง!!!!!!!!!!!!!!!!!”
คุโรโกะหวีดร้องเสียงดังลั่น สะบัดแขนหลุดจากมือชายผมดำปัดเป๋ลงมาปรกตาซ้าย ขาเพรียววิ่งเข้าไปรับร่างสูงโปร่งนายแบบผู้เป็นที่รักมาโอบกอดไว้ โลหิตสีแดงไหลทะลักออกจากปากและหลังหัวโชกชุ่มย้อมเส้นผมสีสว่างให้แดงฉานไปหมด
“ไม่ๆๆๆๆๆไม่สิ!!ต้องไม่เป็นแบบนี้!!คิเสะคุง!!อย่าจากฉันไป!!!” มือบางจับมืออีกฝ่ายขึ้นมาพยายามเกี่ยวก้อยกับร่างไร้วิญญาณในอ้อมแขน
“ฉันสัญญาว่าเราจะอยู่ด้วยกันไปจนแก่จนเฒ่า ฉันจะไม่มีวันทำให้คุโรโกจจิเสียใจ”
“ให้ฉันได้ดูแลปกป้องคุโรโกจจิจากนี้และตลอดไปนะ”
“นี่ไง..ฮึก!!เกี่ยวก้อยสัญญากันไว้แล้วไม่ใช่เหรอคะ..ฮ..ฮึก..คิเสะคุง..” ใบหน้าหวานซบลงกับหน้าปากของอีกฝ่าย มือประคับประคองใบหน้าหล่อเหลาเอาไว้ให้หันมาสบตาเธอ..ดวงเนตรสีอำพันนิ่งสนิทไร้แววดั่งตุ๊กตาไร้ชีวิต เลือดไหลโกรกออกทางปากหยดเปื้อนเสื้อผ้าสกปรกของเธอจนเปียกชุ่ม
อย่าทิ้งกันไปแบบนี้..ได้โปรด..
“คุโรโกะ..เราต้องรีบไปแล้ว..” ฮิมุโระเดินเข้ามาจับไหล่บอบบางของเด็กสาว เขามองสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วก็รู้สึกสงสารชะตากรรมของเด็กสาวจับใจนัก
“ม..ไม่..ไม่ค่ะ!!ถ้าไม่มีคิเสะคุงฉันไม่ไปไหนทั้งนั้น!!”
“คิเสะ เรียวตะตายแล้ว!!!เขาโดนปิศาจสะกดจิตให้ทำแบบนี้..เราช่วยเขาไม่ได้แล้ว” เขาตะคอกเตือนสติอีกฝ่าย กระชากดึงร่างบอบบางออกมาประจันหน้ากันและกัน “ถ้าเธอไม่ไป..อาคาชิจะชนะ!!ราชาปิศาจจะเอาตัวเธอไปเป็นราชินีของพวกมัน ถึงตอนนั้นโลกของเราคงได้จบสิ้นแน่!!!และเธอก็จะไม่มีวันหนีไปจากมันได้ตลอดชีวิต!!!”
คุโรโกะหยุดเสียงสะอื้น เริ่มสงบสติอารมณ์ลง แม้ว่าน้ำตายังไหลรินไม่ขาดสาย ใบหน้าอ่อนเยาว์ล้อมเส้นผมสีฟ้าสบตาสีนิลเข้มดุดันเคร่งเครียดก่อนจะผินไปมองร่างไร้วิญญาณของคนรักยิ่งกว่าสิ่งใดในโลกนี้
“คิเสะคุง..ฉันขอโทษ..”
ถ้าเราไม่มาพบเจอกัน..คิเสะ เรียวตะ คงจะมีชีวิตอยู่ เจิดจ้าเหมือนฝันดีท่ามกลางทุ่งตะวันสีทองอร่ามสดใส
สุดท้ายแล้ว..ความฝันก็เป็นได้เพียงแค่ฝัน..ไม่มีวันเป็นจริง
“คุโรโกะเราต้องไปกันแล้ว”
เด็กสาวพยักหน้าตอบรับคำย้ำของอีกฝ่ายปล่อยให้ฮิมุโระจูงมือพาเดินออกไป เธอเหลียวหลังไปมอง คิเสะ เรียวตะ..บุรุษผู้ทำให้ชีวิตอันมืดหม่นดูสว่างสดใส มอบความหวังและความฝันที่จะก้าวเดินต่อไปข้างหน้า
มือที่กอบกุม…ว่าอบอุ่นเพียงใด
อ้อมกอด..ที่ทำให้รู้ว่าไม่ได้อยู่อย่างโดดเดี่ยวในโลกใบนี้
รอยยิ้ม..มอบทั้งเสียงหัวเราะและความสุขสันต์ให้แก่กัน
และ…ทำให้รู้ว่า ‘ความรัก’ เป็นเช่นไร
“ฉันจะไม่มีวันลืมคุณเป็นอันขาดค่ะ คิเสะคุง” เสียงหวานเอ่ยเอื้อนทั้งครวญสะอื้น คำบอกลาที่เจ้าตัวไม่มีวันตื่นขึ้นมารับฟัง มองร่างสูงผมสีทองสว่างสดใสเป็นครั้งสุดท้าย ในทุกย่างก้าวที่เดินห่างจากอีกฝ่ายไปทีละนิดทีละนิดจนลับสายตา
เด็กสาวผู้มีดวงวิญญาณบริสุทธิ์..ดาบสองคมที่เกิดมาบนโลกมนุษย์
นี่คงเป็นการทดสอบชะตากรรมแห่งฟ้าลิขิตที่จะกำหนดความเป็นไปของโลกใบนี้
บทสรุปสุดท้ายใกล้มาถึงแล้ว
TBC
+++++++++++++++++++
ตอนนี้ควรมีชื่อว่า พระเอกอาละวาด ฮาาาาาาาาาาาาาาา
ค่าตัวแพงเหมือนเคย และอย่างที่บอกค่ะ..บทสรุปใกล้มาถึงแล้ว
และก็..ตอนหน้า..เป็นตอนจบแล้วค่ะ เย้!!!!
อาคาชิตอนหน้าโผล่มาแบบเต็มสตรีม เอาให้หายคิดถึงไปเลย //แน่ใจนะว่าพระเอกของเรื่อง?
ไปก่อนนะคะ บายจ้า
น้องคุโรโกะอย่าหนีเลยลูก นอมรับเถอะ
ไล่คิลคนเป็นผักปลาขนาดนี้แล้วด้วย 555
อ๊ากกกกก คิเสะกะอาโฮ่ ไปโลกหน้าแล้วเหรอออออ ไม่จริงงงงงงงงง ง่าาาาา ครกจ๋า ยอมรับซะเถอะ ถ้ารับแล้วหนูจะสงบสบายไปตลอกกาลเลยนะ อีกนิดเดียวแล้วสินะ รอนะคะๆๆๆๆๆๆๆ อยากอ่านต่อเร็วๆจังเลยพีีบลัดค่าาาาา
ท่านมาแต่อภินิหารคิลแหลกแจกโลงศพรัวๆ น้องโดนคุกคามขั้นสุดแล้ว ตอนหน้าเป็นตอนจบและจะมีบทส่งท้ายอีก1ตอนด้วยค่ะ
ตอนแรกที่แจ้งว่าอัพแล้วก็ตื่นเต้นอ่ะนะ ว่าเฮ้ยอาคาชิปรากฏตัวแล้วจะทำยังไง จะลากน้องไปอยู่ด้วยกันอีกภพภูมิมั้ย หรือจะยังไง แต่…แต่!! นี่มันน่ากลัวสุดๆ
คำถามแฟนพันธุ์แท้นิยายเรื่องนี้ อาคาชิเขวี้ยงอีกาตกพื้นตายกี่ตัว? (55555555+ คนแต่งต้องตอบให้ได้นะ…ใช่เหรอ?) ลักกี้ไอเทมของอคชที่อื่นคือกรรไกร ลักกี้ไอเทมเรื่องนี้คืออีกา
แต่น่ากลัวมากเลยนะ ทั้งแหกเนื้อคน ทั้งอีกาเหลวเละ แถมกลับไปแล้วเพื่อนๆ รังเกียจอีก ไดกิในฟิคค้ำคอร์กับ KNL ยังดีๆ อยู่เลย ไหงภาคนี้ใจแคบจัง!! -__-!! (เขาตายไปแล้วยังจะด่าเขา)
สารภาพว่า
ดวงตาสีแดงของอีกาพุ่งตรงมาที่เธอและ..
โพล่ะ!!!!
โทษนะคะ ตอนนั้นอ่านอย่างระทึกแต่พอเจอประโยคนี้ ไอ้สมองเจ้ากรรมดันประมวลผมว่าอีกาขี้ใส่หัวนางเอก จริงๆ ตอนนั้นแบบตลกตัวเอง เฮ้ยคิดได้ไงวะกำลังสยองเขาคงไม่มาทำให้ฮาตอนนี้หรอก
แต่มิโดรินก็ไม่เชื่อเหรอ ตรงที่ พยายามอธิบาย…ไม่สิ หว่านล้อมมากกว่า (อุตส่าห์นับถือนะ ชิ)
ตอนที่พี่น้ำแข็งออกมา หนูนึกว่า อ่าอะไรเนี่ยลูกน้องอคชจะมาหลอกอีกแล้วเหรอ สรุปไม่ใช่แฮะ (แต่ไม่รู้ว่าพี่บลัดจะตลบหลังในตอนนั้นรึเปล่า อยู่ๆ พี่ฮิมุเกิดฉีกยิ้มถึงหูก็เอ่อ….)
ภาคค้ำคอร์น้องยังมีไดกิกับโอกิวาระที่คอยเป็นแสงสว่างให้ ภาคบาสก็มีไดกิกับคางามิทำให้ชีวิตน้องมีชีวิตชีวา แต่ภาคนี้นี่สิ =___= เครียดแทนนางเอก ถ้าหนูเป็นนางเอกอาจช็อกตาย ไม่มีแรงวิ่งหนี ยกมือขอชีวิตแทบเท้าอคชก็ได้ 55555+
5555555555 ฮาตรงอีกาขี้ใส่หัว กลายเป้นรั่วเลย ตอนนี้อาคาชิโผล่มาแบบไม่ปกติเช่นเคย มาเป็นเงาโผล่ในทีวีแบบซาดาโกะ สิงร่างสาวกอย่างพี่มายุ ไดกิหลอนด้วยกลัวด้วย ตอนแรกก็หมั่นไส้ๆที่ได้มีรักสดใสกับคิเสะซึ่งตัวเองโดนพ่อเลี้ยงขืนใจ เลยไม่มีฟิลนี้ พอเห็นเงาดำๆมีอะไรกะน้องพ่วงคลิปอีก ก็ยิ่งเกลียดกลัวใหญ่ รวมหัวกันขับไล่น้อง
มิโดริมะก็คนดีนะ แต่เจอคลิปไปใจคนก็โลเลไม่มั่นใจว่าน้องบริสุทธิ์จริงไหม
ใจจริงหมอแค่อยากให้ไปให้ปากคำตำรวจเฉยๆว่าเกิดอะไรขึ้น ถ้าดีก็รอดพ้นคดี แต่ถ้าไม่ดีก็โดนจับตามกระบวนการศาล ซึ่งสภาพจิตใจน้องตอนนี้ระแวงไปหมดแล้ว เลยระแวงหมอไปด้วย
พี่น้ำแข็งนั้นจะมีอะไรพลิกอีกไหมต้องรอลุ้นตอนนหน้าค่ะ เรื่องนี้อะไรๆก็ไม่แน่นอน เสนอจิตใจคนชัดเจนมากอีกเรื่องเลยนะ ใจคนอยากหยั่งถึง ดูอย่างมิเนะกับเพื่อนๆน้องครกในสถานบำบัดจิตและหมอเป็นตัวอย่าง
เรื่องนี้น้องโซโลเดี่ยวไม่มีตัวช่วยเลย เหลือแค่อย่างสุดท้ายแล้วคือ วาติกัน ศาสนาคริสต์ใหญ่สุด
อาคาชิเรื่องนี้เหี้ยมมากกกก เหี้ยมแบบไม่เหลือจิตใจมนุษย์เป็นปิศาจ จะเอาให้ได้ก็จะเอา โลกจะวินาศก็ไม่สนใจ ส่วนคำถามอีกานั้น…เอ่อ…ที่มโนไว้เป็น 1000 ได้เลยนะ //คนเขียนก็นับไม่ไหว แต่ร่วงตายเยอะมาก
หื้อฮือ น้องครก พี่ว่ายอมๆท่านไปเหอะนะ
ท่านเล่นแจกไม่อั้นขนาดนี้
ยิ่งอ่านยิ่งหลอน ไม่กล้าอ่านตอนกลางคืนเลยทีเดียว
อย่างลุ้นเลยละค่ะพี่บลัด ตอนหน้าท่านจะมาแจกอะไรอีกหรือเปล่า
ถ้าท่านตามไปแจกที่วาติกันนี่เฮี้ยนที่สุดของที่สุดเลยค่า (นึกถึงภาพโปปวิ่งหนีท่านแล้วสวดเป็นภาษาละติน – ขนลุกเลยค่ะพี่น้อง)
วาติกันนี่คือจุดสูงสุดของศาสนาคริสต์แล้ว สถานที่สุดท้ายที่น่าจะปลอดภัยสุดไม่มีที่ไหนเท่าที่นี้แล้ว รอลุ้นตอนหน้าว่า ราชาปิศาจอย่างท่านจะทำอย่างไรต่อ ท่านคุกคามน้องเล่นทำทุกคนอย่างแจกอันลิมิเตทชาวบ้านชาวเมืองเดือดร้อนก็ไม่สน
ช่วงนี้คุณบลัดดูฟิตๆนะคะ คลอดฟิคแดงดำเร็วมาก555
อ่านตอนนี้แล้วเเบบพระเอกคะ…พระเอกตามติดมากอ่ะค่ะ หลอนนะคะ555
เเต่เราชอบคำพูดนี้มากเลยอ่ะค่ะ
“เขาพร้อมที่ทนรอลูกเสมอ..ไม่ว่าจะกี่ภพกี่ชาติหรืออีกหมื่นปีแสง ลูกหนีเขาไม่พ้นหรอก”
จี๊ดมากอ่ะค่ะ…คือแบบเเค่คิดหนีก็แบบ ไม่ได้ละ ยังไงก็ไม่มีทางพ้นหรอก อย่าได้ฝืนดึงดันอีกเลย ยิ่งได้อ่านฟิคสดของคุณบลัดที่เหมือนเป็นกำเนิดราชาปิศาจเเล้วยิ่งเเบบ มันใช่อ่ะ…ความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของระดับนี้หาไม่ได้ง่ายๆเลยนะ น้องครก.ควรจะยอมรับได้ละ555 ดูแล้วหาทางรอดไม่ยักกะเจอเลย
ร่ำลานายเเบบโกลเด้น ดวงตะวันเพียงหนึ่งเดียวของเรื่อง…เเต่ตอนที่ทีวีฉายภาพ เราแอบนึกว่านายน้อยจะคอสเป็นซาดาโกะเเล้วคลานออกมาจากทีวีรึเปล่านะ ฟีลได้มากอ่ะ
รออ่านบทสรุปของหนุ่มขี้ตื๊อกับสาวโชคร้ายนะคะ 555
พอดีมีฟิคบาสใกล้จบ2เรื่องเลยขยันเป็นพิเศษประกอบกับปิดเทอมอยู่555 คำพูดที่มายุบอกคือแบบคุกคามมาก ถึงขนาดว่าตายแล้วเกิดใหม่ท่านก็จะรอจะเอามาให้ได้ ถ้าได้อ่านภาค0 จะเข้าใจหัวอกท่านเลยว่าผ่านความทรมานมาขนาดไหน ผ่านมาจนแบบกลายเป็นคนที่ชั่วช้าเข้าด้านมืดยิ่งกว่าปิศาจต้นพลังอย่างลูซิเฟอร์
ความรักที่ท่านมีให้น้องตอนนี้เกจทะลุเกินกว่าคนทั่วไปเรียกว่ารักแบบปิศาจคือ อยากได้อยากครอบครองอยากจะกลืนกินทั้งตัวทั้งวิญญาณตักตวงแบบไม่มีที่สิ้นสุด ฟฟฟฟ คุกคามมากกกก
อ๊ากกกกกกกกกกกก น่ากลัวมากกกก
เรื่อง bloody complex มิเนะก็ซวย
เรื่องนี้ คิจังก็ซวย แต่ซวยกว่ามาก!!!!!!!!!
นายน้อยมาน่ากลัวเสมอต้นเสมอปลายมาก =[]=!!!
จะจบแล้ว น้องยังทำใจไม่ได้เลยยยยยย
รอบตัวน้องนี่ซวยหมดเลย ตอนนี้มาปล่อยพลังทำลายจนวุ่นวายหมด พี่แกไม่สนอะไรทั้งนั้นจะเอาตัวน้องไปลูกเดียว ฮาาา
เมื่อเช้าอ่านก่อนเข้าห้องสอบเลยไม่ได้เม้น เลยมาเม้นซะเย็นเลย OTL
ตอนนี้แบบ… ราวกับบอสปีศาจในเกมกำลังปรากฏตัวไล่ฆ่าเลยทีเดียวค่ะ ฆ่าแบบอินฟินิตี้มากเลย นี้มันจะเป็นการสูญสิ้นครั้งยิ่งใหญ่ของมวลมนุษยชนไหมคะเนี้ยะ !?
แล้วการที่คีจังเปิดทีวีมาเจอท่าน อินี่ดอทไปเลยค่ะ ตอนแรกคิดว่าจะเป็นภาพท่านพุ่งออกจากจอทีวี มาหาซะอีก สุดท้ายคีจังคว้าปืนมาก็คิด เอ๊ะ หรือจะโดนท่านเข้าสิงแล้วยิงหัวตัวเองตาย ตอนนั้นจินตนาการการตายของคีจังไปหลายรูปแบบมากเลยค่ะ (บ่งบอกความคิดอันชั่วร้ายต่อคีจังมาก)
ว่าแต่ท่านคะ… ที่นรกนี่มีแหล่งเพาะพันธุ์อีกาด้วยเหรอคะ ถึงฆ่าทิ้งแบบไม่คิดว่ามันสิ้นเปลืองบ้าง //โดนอีกาท่านพุ่งตาย
น้องเองก็น่าสงสารใช่ย่อย ทุกคนหาว่าน้องบ้าเต็มไปหมดเลย ; v ; พอเข้าใจความรู้สึกนะคะว่าโดนกดดันแบบนั้นมันเป็นเยี่ยงไร ยิ่งเจออะไรแย่ๆ มาด้วยยิ่งทำให้ระแวงและหวาดผวามากขึ้นเป็นเท่าตัวเลย แม้แต่ที่พึ่งสุดท้ายในตอนแรกอย่างพี่มายุก็ดันโดนท่านเข้าสิงไปเรียบร้อย คำพูดที่ว่า “เขาพร้อมที่ทนรอลูกเสมอ..ไม่ว่าจะกี่ภพกี่ชาติหรืออีกหมื่นปีแสง ลูกหนีเขาไม่พ้นหรอก” นี่ทำเอารุ้สึกแหม่งๆ ล่ะ สุดท้ายพอทันหลุดมา “เธอคือผู้หญิงที่จะคลอดลูกให้ผม..อ้าขาให้ผมย่ำยีไปชั่วนิจนิรันดร์!!!”
โธ่ท่านนนนนนนนนนนนน ท่านแลดูเก็บกดตั้งแต่ภาค 0 นั้นสินะคะ ;________;
น้องครกก็ยอมๆ ท่านไปเถอะ ถึงขนาดแล้ว หนูจะได้เป็นวีรสตรีกู้โลกเลยนะคะ !!!
ตอนหน้าเราต้องจากกันแล้วสินะคะ รอลุ้นมากพอๆ กับอีกค้ำคอว์ที่ใกล้จะจบเช่นกันเลย ฮือวววว
พุ่งจากทีวีนี่เป็นซาดาโกะเลยนะ 555 คีจังตายแบบฮาร์ดคอร์ยิ่งกว่าเอาปืนจ่อหัวอีกนะ กรอกปากนี่บ้าพอตัวเลยถึงจะกล้าทำ ที่นรกท่านทำฟาร์มอีกาเป็นงานอดิเรก ล้อเล่นนน 555 เป็นพลังในการเรียกสัตว์รับใช้ เหมือนสัญลักษณ์ประจำตัว อีกาก็เชื่อฟังท่านทันที ท่านเก็บกดมาตั้งแต่ภาค 0 ท่านรอน้องมานานมากกก กว่าน้องจะเกิดแถมน้องก็มาในแบบวิญญาณบริสุทธิ์มากๆด้วย ปิศาจย่อมอยากล่อลวงคนที่ดูดีๆให้ไปเลว เหมือนเอาชนะพระเจ้าได้ พันปีก่อนท่านนี่สาปแช่งพระเจ้ามาก เลยเลวสุดขั้วชั่วสุดขีดทะลุลูซิเฟอร์
ตอนหน้าจะเป็นตอนจบและก็มีบทสรุปอีกตอนที่ไม่เคยแต่งในฟิคสดด้วยค่ะ เรื่องนี้ก็จะจบโดยสมบูรณ์
ลดแลกแจกแถมจริงอ่ะๆตอนนี้ ตายกันหมดเลย ท่านเอาจริงเอาจังมากค่ะ ตั้งชื่อตอนว่าพระเอกอาละวาดจริงๆเถอะ ไหนๆก็จะจบแล้วไม่รู้ว่าตอนจบเนี่ยจะแอบย้อนไปผูกกับอดีตเมื่อหลายพันปีก่อนที่คุณบลัดเคยฟิคสดไว้รึเปล่าน้อ ขอบทหวานสักกระจึ๋งนึงก็ยังดี(?) แต่นี่มันไม่ใช่ฟิคแนวโรแมนติก 5555555555 รอค่ะรอ
อันนี้ต้องลุ้นค่ะว่าจะมีย้อนรอยไหม 555 ฟิคนี้ถ้ามีหวานคงหวานแบบไม่ธรรมดาเหมือนๆกับท่านที่ปรากฏตัวแต่ละที ตอนหน้าตอนจบแล้วก็จะมีตอนบทส่งท้ายอีก1ตอนค่ะ
ท่านอาละวาดได้ดุเดือดมาก
และยังค่าตัวแพงออกน้อยเช่นเคย
แต่ก็ทำให้น้องวิ่งตลอดเลน
ครก ไม่ใช่แค่ตัวเดินเรื่ิงนะ แต่เป็นตัว ‘วิ่ง’ เรื่องจริงๆ
เป็นนางเอกที่รับบทหนักจริงๆ
เชื่อแล้วล่ะค่ะว่าเรื่องใกล้จบแล้ว
เพราะแสงสว่าวเพียงหรึ่งเดียวถูกความมืดกลืนกินไปเรียบร้อยแล้ว
#คิเสะร้องไห้ทำไม
คีจังพระรองที่น่าสงสารมากอ่ะ อยากปกป้องน้อง รักน้อง แต่เจออาคาชิเข้าไป น้องวิ่งเรื่องตลอดจริงๆ55555วิ่งแล้ววิ่งอีก กล้ามขึ้นขาแล้วมั้ง ฮาาา.
ตอนนี้ท่านอาละวาดโผล่มาแบบไม่เต็มองค์ ตอนหน้าเต็มองค์เต็มยศแล้ว ฟฟฟฟฟ
แง้ๆๆๆๆๆๆๆ ผมตายแล้วๆๆๆๆ. ศพๆไม่หล่อด้วย
อาคาชิจิ ทำไมไม่มาบอกกันดีๆอ่ะ ว่าต้องการคุโรโกจิ จะไปเกณฑ์มิโกะ ทั่วประเทศมารุมยำซะหรอก T^T
5555 มิโกะไม่มี มีแต่บาทหลวงมากำราบตอนหน้าแล้วจ้า
ง่ะครับเจ๊บลัดคงไม่เหมือนเรื่องblueexorcist น่ะครับ บาทหลวงโดนกำจัดยกวาติกัน แต่ยังไงก็สู้ๆๆน่ะครับ ทั้งคนแต่งและบาทหลวง
เดาว่าหัวหน้าบาทหลวงน่สจะเป็นมุราซากิบาระจิ ใช้ม้า ครับ ^0^
อันนี้ต้องลุ้นจ้าาาา 5555 มุคคุงไม่มีบทอ่ะเรื่องนี้
เฮ้ยๆ มุงคุงจะเป็นบาทหลวง คงเป็นบาทหลวงที่เลซี่แน่ๆ เวลาบาทหลวงคนอื่นเทศก็หลับ แอบเอาขนมไปกินในโบสถ์ 555555