[Fic Kuroko no Basket] Kuroko no love
Paring : Akashi x Kuroko
Rate : PG-13
Story : blood_hana
+++++++++++++++++++++++++++++++++
Kuroko no love 34
ร่างเพรียวเล็กบอบบางตัวตนจืดจางจนยากที่ใครจะจับสังเกตเห็น เดินไล่สันหนังสือบนชั้นวางไปเรื่อยๆ ก่อนจะหยิบเอานวนิยายแนวสืบสวนออกมาหนึ่งเล่ม พลิกอ่านเรื่องย่อที่ปกหลังผ่านๆตา ก่อนจะสอดคืนชั้นเนื่องจากเนื้อหายังไม่ใช่ที่ประทับใจเท่าไหร่ แล้วเริ่มไล่มองชื่อนิยายจากสันหนังสือเล่มอื่นๆ ในร้านหนังสือช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์
“ข่าวคิเสะเลิกกับอาคาชิผ่านมาเกือบอาทิตย์แล้วยังไม่ซาเลยแหะ”
“ดังครึกโครมขนาดนั้น เห็นว่าแฟนใหม่คิเสะถึงกับประกาศตัวขออาคาชิตรงๆเลยนะ”
สองสาววัยรุ่นในชุดเดรสวัยรุ่นสั้นพลิ้วผิดกับเธอที่สวมกางเกงยีนส์ฟอกซีดกับเสื้อโปโลลายทางขาวดำกับเป้สะพานข้างสีขาวเรียบง่ายมองยังไงก็เหมือนผู้ชายตัวเล็กหน้าหวานคนหนึ่งกำลังกระซิบกระซาบพลางเปิดหนังสือพิมพ์พาดหัวข่าวใหญ่โตไว้ว่า ‘รักล่มเลิกสายฟ้าแล่บ!!อาคาชิ คิเสะ’ นี่ยังไม่รวมอีกหลายสำนักพิมพ์อื่นๆ ที่พากันโหมกระแสข่าวเลิกของทายาทตระกูลดังกับนางแบบสาวให้ลุกโชนขึ้นๆไป
“ตอนแรกฉันก็คิดว่าคิเสะไม่ดีเลยที่ทิ้งอาคาชิไป แต่พอเมื่อวานที่อาคาชิออกมาให้สัมภาษณ์ ถึงได้ต้องมองใหม่”
“ระยะทางกับเวลาที่ไม่ตรงกัน เหมือนจะเหินห่างกันมาซักพักด้วยแต่ยังไม่มีใครคิดบอกเลิกกัน..น่าสงสารทั้งสองคนจริงๆ”
“เพราะแบบนี้กระแสความดังของคิเสะถึงได้พุ่งขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าเลยล่ะ ถึงกับมีคนติดต่อทาบทามไปเล่นหนังด้วยมั้ง”
คุโรโกะ เท็ตสึยะแอบยืนยิ้มจางๆกับข่าวฮอตที่สุดในช่วงเวลานี้ เป็นเรื่องของคน 3 คนที่เธอรู้จักมักจี่เป็นอย่างดี ตอนแรกตกใจแทบแย่หลังจากเห็นข่าวออกทีวี ไหนจะคลิปวิดิโอในร้านอาหารฝรั่งเศสแพร่กระจายไปทั่วอินเตอร์เน็ตอีก
ข่าวสารก็เหมือนดาบสองคม..อาจจะดีก็ได้ร้ายก็ได้เช่นกัน….
โชคดีที่ชายผู้เป็น ‘จักรพรรดิ’ ใช้เวลาสั้นๆไม่กี่นาที พูดออกมาไม่กี่ประโยคกลับทำให้กระแสดีเปรี๊ยงปร๊างจนฉุดไม่อยู่
อัศวินผู้ถือครองดาบทมิฬกับจิ้งจอกสาวจึงหลุดพ้นคำครหาเชิงลบ
คุโรโกะ เท็ตสึยะ ถอนหายใจโล่งอก เธออารมณ์ดีมากถึงมากที่สุดในช่างตลอดระยะเวลาเกือบครึ่งค่อนปีที่ผ่านมา ใบหน้าหวานจืดจางไร้อารมณ์แต่งแต้มรอยยิ้มอยู่บ่อยจนทางบ้านพากันตกใจอยู่ไม่น้อย
ฟังดูแย่…แต่เป็นความจริงที่เรา ‘ดีใจ’ กับการที่พวกเขาทั้งสองเลิกกัน
.
.
.
ตึง!!!ตึง!!!ตึง!!!
“แบบนั้นล่ะ Taiga!!!!”
ปึง!!!!!
ลูกบาสเก็ตบอลปากระแทกเข้าสู่แป้นบาส ทว่า..แทนที่จะลงห่วงกลับกลายเป็นว่ากระแทกเด้งออกมาเสียอย่างนั้น คางามิ ไทกะ หย่อนเท้าลงเหยียบพื้นหลังจากออกแรงถีบที่ขาทั้งสองกระโดดขึ้นชู้ตลูกด้วยท่าใหม่ที่ครูสาวชาวอเมริกันสอนมา
“Oh!!ไม่ลงอีกแล้วงั้นเหรอ” อเล็กซ์ถอนใจเฮือกใหญ่ หญิงสาวทรงโตถอดแว่นกรอบสีชมพูหยิบชายเสื้อยืดสีขาวขึ้นมาเช็ดถูหยดเหงื่อและคราบสกปรกออกจนใสกิ๊กแล้วสวมต่อ เพ่งมองไปยังร่างสูงกำยำในเสื้อกล้ามสีดำกับกางเกงสามส่วนสีเทากำลังนั่งเท้าเข่าหายใจหอบแฮ่กๆ
“ท่าทางเมเทโอแจมจะใช้ได้ตอนที่ฉันเข้าโซนเท่านั้นจริงๆ” คางามิ ไทกะ ยกมือเช็ดเหงื่อไหลย้อยตรงคางออก ขมวดคิ้วสองแฉกเคร่งเครียดจนเกิดรอยย่นระหว่างหัวคิ้ว
แบบนี้มีทางเดียวคือต้องหา ‘เทคนิค’ ที่จะเปิดประตูโซน
“สวัสดีค่ะคางามิคุง คุณอเล็กซ์” เสียงหวานเรียบเย็นทักทายจากทางซ้าย คางามิเหลียวหน้าไปมองก็พบกับสาวตัวเล็กปลอมเป็นชายผมสีฟ้าอ่อนตัดสั้นชี้ยุ่งไม่เป็นทรงกำลังอุ้มลูกหมาไซบีเรียฮัสกี้ชูใส่เขาระยะประชิด…
“ว๊ากกกกกกกกกกกก ตกใจหมดเลย!!!ไม่ให้ซุ่มให้เสียงยังเอาหมามาใกล้อีกนะ!!!!!!!” ชายตัวสูงใหญ่กลับมีเรื่องฝังใจกับหมาวิ่งถอยกรูทิ้งช่วงห่างเป็นวาจากคู่หูเงาลวงตาที่กำลังยืนทำหน้าตาย ส่งสายตานิ่งเรียบสีฟ้าเช่นเดียวกับลูกหมาในอ้อมแขน
เห็นนิ่งๆแบบนั้นกำลังสนุกที่ได้แกล้งชัดๆ!!!
“HaHaHa ยังกลัวหมาอยู่เหมือนเดิมเลยนะ” สตรีต่างชาติผมทองหัวเราะขำขัน มองเอ็นดูเด็กชายตัวน้อยในวันนั้นที่ได้เติบโตเป็นคนหนุ่มในวันนี้ยืนชี้นิ้วโวยวายใส่คู่หูเงาลวงตา แทนที่คุโรโกะจะเข้าใจกลับแหย่โดยการวิ่งเข้าหา ไล่ตามเขาโดยไม่วายชูเบอร์สองใส่ เป็นอะไรที่น่ารักน่าเอ็นดูปนขำในสายตาผู้ใหญ่เพียงหนึ่งที่ยังยืนอยู่บนสนาม
“Taiga ฉันคอแห้ง เดี๋ยวไปซื้อน้ำก่อนนะ ทั้งสองคนจะเอาอะไรไหม?” อเล็กซ์ถามคนหนุ่มผมแดงอมน้ำตาลไหม้ชี้ฟู คางามิบอกขอน้ำเปล่าหนึ่งขวด ส่วนคุโรโกะส่ายหัวปฏิเสธ จังหวะที่เธอกำลังจะเดินออกไปจากสนาม สาวผมทองอาศัยจังหวะที่คนตัวเล็กปลอมเป็นชายกำลังสนใจลูกหมาที่เธอเลี้ยงหันมาขยิบตาชูนิ้วโป้งส่งซิกส์ให้คางามิ
เปิดทางให้แล้วนะเสือน้อย
แก้มสากขึ้นสีแดง อ่านนัยยะอีกฝ่ายออกแล้วก็เบ้ปากเกาหัวแกร่ก ก่อนจะเหลียวมองไปยังร่างเล็กที่นั่งยองๆทอดสายตามองลูกหมาตัวน้อยอย่างอ่อนโยนพร้อมลูบหัวไปมา…เป็นภาพที่ดูน่ารักน่าทะนุถนอม บอบบางเหลือเกิน
ผู้หญิงตัวเล็กๆคนนี้กลับกล้าทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่เพื่อแสดงให้เห็นบาสเก็ตบอลที่ถูกต้อง!!!
คุโรโกะ เท็ตสึยะ เธอเป็นผู้หญิงที่จิตใจเข้มแข็งจริงๆ..เพราะแบบนี้ฉันถึงได้….
“คุโร…..”
“หลายวันที่ผ่านๆมาซ้อมกับคุณอเล็กซ์เหนื่อยแย่เลยนะคะ” คุโรโกะ เท็ตสึยะยืดตัวเต็มความสูง ปล่อยให้เบอร์สองวิ่งเล่นในสนามบาสกลางแจ้งที่สวนสาธารณะใหม่ใจกลางโตเกียว ความกล้าที่กล่าวคำบางคำพังทลายลงไปกับตาทำให้คางามิจำต้องตัดสินใจกลืนคำๆนั้นลงคอแล้วแสร้งยิ้มเกาหัวไปมา
“ก็ไม่เท่าไหร่หรอก แล้วเธอล่ะชู้ตบาสได้รึยัง” เปลี่ยนมาถามไถ่เรื่องของอีกฝ่ายที่ไปขอให้แฟนเก่าอย่างอาโอมิเนะช่วยสอน คุโรโกะหันมาพยักหน้าตอบรับทั้งรอยยิ้มน้อยๆ นั่นถือเป็นนิมิตหมายอันดีแสดงให้เห็นว่าสิ่งที่เธอพยายามจะทำได้ผลสัมฤทธิ์ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“น่าตกใจเหมือนกัน ไม่คิดเลยว่าอาโอมิเนะกับคิเสะจะชอบพอกันแบบนั้น” คางามินึกเรื่องเปิดสนทนาไม่ออก ถ้าเป็นเมื่อก่อนตอนยังไม่รู้ใจตัวเองคงจะชวนคุยอะไรได้ไหลลื่นกว่านี้ ประโยคที่กล่าวออกมาถึงได้ฟังเป็นเสียงทุ้มสูงแถมยังสั่นๆอีก
“คิเสะคุงแอบชอบอาโอมิเนะคุงมาตั้งแต่ ม.ต้น แล้ว ฉันเองก็ยินดีที่ทั้งสองใจตรงกันซักที” คุโรโกะตอบ
“แล้วทางด้านอาคาชิ หมอนั่นจะคิดยังไงกับเรื่องนี้กัน..” มือหยาบรีบยกปิดปากพึ่งนึกขึ้นได้ว่าเผลอพูดชื่อคนที่ไม่ควรเอ่ยให้เข้าหูสาวร่างเล็ก เขาทำหน้าเลิ่กลั่กมองดวงหน้าหวานล้อมเส้นผมสีฟ้าครึ่งซีก สีหน้าของเธอยังคงนิ่งเรียบจนยากที่จะอ่านความรู้สึก
“ฉันเอง..ก็ไม่รู้เหมือนกัน….” เธอส่ายหัวช้าๆ ตาสีฟ้ากลมโตทอดมองลูกบาสของคางามิ ไทกะที่วางทิ้งไว้กลางสนาม
“แต่ที่แน่ใจคืออาคาชิคุงในตอนนี้สนเพียง ‘ชนะ’ เท่านั้น ไม่มีอะไรสำคัญไม่กว่านั้นอีกแล้ว”
“ในตอนนี้? ” คางามิ ไทกะทวนคำพูดอีกฝ่าย ตาสีเพลิงกลอกขึ้นฟ้านึกย้อนถึงการสนทนาระหว่างมิโดริมะกับอาคาชิที่เขาแอบไปได้ยินตอนออกวิ่งตามหาคุโรโกะเมื่ออาทิตย์ ภายในวันเดียวกันนั้น…ราคุซันเอาชนะทีมชูโตคุไปได้ด้วยคะแนนทิ้งห่างอยู่ 15 แต้ม
“นายเหมือนเดิมเสมอไม่เคยเปลี่ยน..ไม่สิ..ฉันต้องพูดว่าอาคาชิคนเดิมไม่มีอีกแล้วสินะ”
คำพูดของมิโดริมะ ชินทาโร่ในตอนขอจับมือกับอีกฝ่าย ซึ่งตอนหลังถูกฉีกหน้าโดยการปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใยดังก้องหัว ยิ่งคุโรโกะพูดออกมาเช่นนี้ เขาก็ยิ่งติดใจสงสัยในตัวผู้นำเหล่าสัตว์ประหลาดอย่างรุ่นปาฏิหาร์ยเข้าไปใหญ่
อาคาชิ เซย์จูโร่ เลือกที่จะตั้งเป้าเป็นศัตรูกับทุกคน ช่างเป็นความคิดที่หนักแน่น เด็ดขาด รุนแรงกว่าใครทั้งหมด
ถ้าหากเป็นอย่างที่มิโดริมะกับคุโรโกะพูด..แปลว่าสมัยก่อนคนๆนั้นไม่ได้มีแนวคิดเช่นนี้งั้นหรือ?
“คางามิคุงได้ยินที่มิโดริมะคุงกับอาคาชิคุงคุยกันหน้าตู้กดน้ำสินะคะ”
“!!!!!!!” คนผมแดงอมน้ำตาลไหม้สะดุ้งตกใจคาดไม่ถึงว่าสาวผมฟ้าจะรู้ เขาผงกหัวช้าๆยอมรับทั้งสีหน้าละอายใจที่ทำตัวเสียมารยาทแอบฟังผู้อื่น คุโรโกะไม่ถือสาเรื่องพวกนั้นเธอจึงไม่คิดโกรธเคืองใดๆ และขยับริมฝีปากเล็กอิ่มพูดต่อด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาให้ได้ยินกันเพียงสองคนเท่านั้น
“ถึงจะยังไม่เป็นที่สรุปแน่ชัด พวกเราทุกคนในรุ่นปาฏิหาร์ยเชื่อกันว่า…อาคาชิคุงน่าจะมี 2 บุคลิก”
คางามิ ไทกะ อ้าปากค้าง ใบหน้าคมคายซีดเผือกเม็ดเหงื่อผุดพรายทั่วใบหน้าปะปนกับเหงื่อจากการฝึกซ้อมบาสเมื่อครู่ สิ่งที่คุโรโกะบอกเล่าเมื่อครู่นั้นทำเอาเขากลืนน้ำลายลงคอเสียวไส้ นี่ถือเป็นอาการร้ายแรงสมควรเข้ารับการรักษาอย่างเร่งด่วนเสียด้วยซ้ำ คิดแล้วก็รู้สึกเจ็บแปล๊บแผลเป็นสีจางบนแก้มซ้าย..แผลที่ถูกคมกรรไกรเฉี่ยวเข้าให้
ในขณะที่คางามิกำลังจะถามต่อ จำต้องจบบทสนทนาลงเมื่ออเล็กซ์เดินกลับมาพร้อมโคล่าและขวดน้ำเปล่า…
.
.
.
วันรุ่งขึ้นการแข่งรอบตัดเชือกเข้ารอบชิงชนะเลิศกับรอบชิงรองชนะเลิศมาถึง ห้องล็อคเกอร์ทั้ง 2 ห้อง ถูกจัดไว้รับรองทีมบาสเก็ตบอลเยาวชนระดับ ม.ปลาย ที่จะเป็นดาวเด่นโลดแล่นบนสนามถึงสองโรงเรียนด้วยกันในวันนี้
“ถ้าชนะวันนี้ได้พวกเราจะได้เข้ารอบชิง ทีมที่เราต้องเจอวันนี้คือ ‘โยเซน’ จากผลการแข่งครั้งที่แล้วโยเซนเอาชนะไปด้วยคะแนนสูงถึง 105 : 11 “
“อะไรนะ!!! นำไปร้อยกว่าแต้มเนี่ยนะ!!!” ฮิวงะอุทานหลังสิ้นคำอธิบายจากโค้ชสาวผมซอยสีน้ำตาลติดกิ๊ฟ
“พวกนั้นมีตัวอันตรายถึงสองคนอยู่ในทีม..คนแรกคือ ‘มุราซากิบาระ อัตสึชิ’ หนึ่งในรุ่นปาฏิหาร์ยตำแหน่ง center ถ้าถามว่าใครเป็นป้อมปราการที่แกร่งที่สุดในระดับมัธยมก็คงต้องยกให้ปิศาจตัวนั้น” ริโกะอธิบายต่อพลางเหลือบมองคุโรโกะที่นั่งฟังเงียบๆด้วยสีหน้าเคร่งเครียดไม่ต่างกัน “คนที่สองคือ ‘ฮิมุโระ ทัตสึยะ’ สิ่งที่น่ากลัวคือทักษะกับลูกชู้ตของเขาที่ไม่เคยมีใครหยุดยั้งได้ รายละเอียดข้อมูลไม่มากนักเนื่องจากเจ้าตัวไม่ได้เข้าลงแข่งในอินเตอร์ไฮน์ ”
จอมเวทย์แห่งเหมันต์กับป้อมปราการแห่งยักษา..กำแพงอันตรายที่อัศวินแห่งแสงกับเด็กหญิงต้องเผชิญ
“คางามิ นายได้รองเท้าใหม่แล้วเหรอ” โคกาเนะสังเกตเห็นเอซเซย์รินนั่งผูกเชือกรองเท้าสีดำแดงยี่ห้อ Nike บนม้านั่งไปมาให้แน่นกระชับ ขายาววางเท้าลงกับพื้นเลิกนั่งชันเข่าแล้วหันมาตอบรุ่นพี่หน้าตาเหมือนแมว
“ได้มาแบบฟลุ๊คๆ น่ะ..ครับ ตอนแรกก็ไปเดินหาในห้างกับคุโรโกะอยู่ตั้งนานไม่มีไซส์เลย และจู่ๆก็มีคนส่งพัสดุมาให้ ไม่ลงชื่อด้วยนะ..ครับ”
“เห…แฟนคลับนายล่ะมั้ง เดี๋ยวนี้ชื่อเสียงคางามิ ไทกะ แสงแห่งเซย์รินก็ดังใช่ย่อยน้า” โคกาเนะชื่นชมคนตัวสูงผมแดงฟู เขาเองก็คิดเห็นเช่นเดียวกับรุ่นพี่อยู่เหมือนกัน เพราะการแข่งกับโทโอ รองเท้าบาสที่ใช้ประจำพังไม่เป็นท่าจนต้องวิ่งว่อนตามหารองเท้าเป็นว่าเล่น ถึงจะตกใจจนน่าขนลุกก็เถอะที่เล่นซื้อถูกรุ่นถูกไซส์เขาขนาดนี้ อยากจะขอบคุณกลับไปเหมือนกันแต่เจ้าตัวดันไม่จ่าหน้าซองซะนี่ ทิ้งเพียงการ์ดเล็กๆ ด้วยลายมือไม่คุ้นตาซึ่งจุดนี้ไม่ได้เล่าให้ใครฟัง
‘รับและก็ใส่แข่งซะ’
“ใครฟร่ะ โน้ตเหมือนออกคำสั่งชัดๆ” เสียงทุ้มพึมพำกับตัวเอง ขมวดคิ้วฉงนสงสัย เพราะข้อความนั่นทำให้ความรู้สึกอยากขอบคุณไม่สุดใจ
“เอาล่ะ ใกล้ถึงเวลาแล้วทุกคนพร้อมแล้วนะ!!” ไอดะ ริโกะ ตบมือเรียกสมาชิกในทีมให้มารวมตัวกัน โคกาเนะกับคางามิจึงจบการสนทนาลง สิ่งที่พวกเขาเหล่าเซย์รินต้องคิดมีเพียงเรื่องเดียวคือ…
“เอาชนะโยเซนให้ได้!!!!”
“โอ๊ส!!!!!”
.
.
.
ลานหลังสถานที่จัดสนามแข่งขันวินเทอร์คัพในช่วงเวลายามบ่ายสองโล่งเตียนไม่เหลือใคร เว้นเพียงชายร่างสูงเรือนผมสีดำปรกตาไว้ข้างหนึ่งในเครื่องแบบนักกีฬาโยเซน เขาผ่อนลมหายใจช้าๆทำใจให้สงบนิ่ง แล้วหลุบตามองแหวนโลหะเกลี้ยงวงถูกร้อยด้วยสร้อยโลหะสวมติดตัวเสมอ ปลายนิ้วแตะผิวเรียบสัมผัสถึงความเย็นของมันไปมาก่อนจะหยิบยกขึ้นมาดูในระยะสายตา
แหวน..เป็นสิ่งที่แทนความสัมพันธ์ที่คาราคาซังมานานหลายปี
ในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า..ถึงเวลาต้องตัดสิน
“Tutsuya” เสียงหวานสำเนียงอเมริกันคุ้นหูดังจากด้านหลัง ฮิมุโระหันไปตามเสียงเรียกก็พบเข้ากับสตรีชาวฝรั่งผมสีทองสวมแว่นกรอบสีชมพูในชุดโค้ทสีเขียวกับกระโปรงยีนส์สั้นกำลังยืนโบกมือทักทายด้วยรอยยิ้มกว้างจนเห็นฟันขาว
“อเล็กซ์มาญี่ปุ่นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ทำไมไม่บอกฉันเลยล่ะ” ฮิมุโระ ทัตสึยะยิ้มละมุนทักทายอาจารย์สาวที่สั่งสอนบาสเก็ตบอล
“มาสอนบาส Taiga น่ะ วันนี้ทีมของพวกนายสองคนแข่งกัน ฉันเชียร์ทั้งคู่อยู่ข้างบนนะ” สิ้นคำตอบ ฮิมุโระหุบยิ้มลงฉันพลัน นัยน์ตาสีนิลไร้ซึ่งแววตาอ่อนโยน บรรยากาศรอบตัวคนผมสีดำเย็นลงทันตาจนอเล็กซ์เลิกคิ้วสูง
“แบบนี้นี่เอง ไปขอให้อเล็กซ์ช่วย กะว่าจะเอาชนะฉันสินะ” ปากหนากระตุกยิ้มหยั่น แล้วพูดต่อด้วยเสียงทุ้มเย็นชา “อเล็กซ์ไม่จำเป็นต้องมาเชียร์พวกฉันสองคนหรอก พวกเราไม่ใช่เด็กที่ต้องมาฟังพ่อแม่พูดว่ารักลูกเท่ากันแล้ว”
“เดี๋ยวสิ Tutsuya ฉันไม่ได้หมายควา….”
“ไม่ต้องพูดแล้วอเล็กซ์ ฉันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้วและก็จะไม่คิดอ่อนข้อให้ไทกะด้วย” ฮิมุโระแทรกขึ้นอย่างรวดเร็ว ขายาวสวมกางเกงวอร์มขายาวสีขาวม่วงเครื่องแบบโยเซนก้าวสวนผ่านคนต่างชาติ กระซิบด้วยวาจาเย็นยะเยือกจนน่าใจหาย
“เลิกคิดว่าพวกเราเป็นครอบครัวเดียวซะที”
กระแสลมพัดแรงผ่านร่างระหว่างคนทั้งสองที่เคยเป็นศิษย์อาจารย์กันมาแก่เก่าก่อน ชายหนุ่มได้เติบโตขึ้นจนข้ามผ่านความสามารถหญิงสาวไปแล้ว..ถึงแม้ว่าจะรู้สึกผิดไม่น้อยกับวาจาคาดความเคารพต่ออีกฝ่ายและอาจทำให้เธอเสียใจ กระนั้นก็ไม่คิดที่จะหันกลับไปขอโทษ
ตึก…ตึก…ตึก…
“เห…นั่นอาจารย์ของมุโรจินสินะ” คนตัวสูงเหยียดสองร้อยยืนกัดขนมข้าวพองอบกรอบยี่ห้ออุไมโบ พิงกำแพงในอุโมงค์มืดรอดักรอเพื่อนร่วมทีมที่ขอตัวไปสูดอากาศข้างนอกนานสองนาน ฮิมุโระชะงักฝีเท้าเหลียวหน้ามองบุรุษผู้เกิดมาพร้อมพรสวรรค์ในการเล่นบาส
“เมื่อก่อนน่ะใช่ แต่ตอนนี้ไม่แล้ว” ปากหนาได้รูปขยับยิ้มอ่อนโยนส่งให้คนตัวใหญ่นิสัยเด็กน้อย มุราซากิบาระ อัตสึชิดันหลังออกจากกำแพงก้าวเพียงสั้นๆก็ไล่ตามอีกฝ่ายทัน
“ที่สำคัญกว่าตอนนี้คือต้องเอาชนะเซย์รินให้ได้ ต้องชนะ..ไทกะให้ได้” มือแกร่งกำแหวนไว้แน่น..นัยน์ตาสีอเมทิสต์คู่คมเหลือบมองเนือยๆก่อนจะกลอกขึ้นฟ้าเบื่อหน่าย ซองขนมอุไมโบหมดแล้วเหลือเพียงเศษแป้งติดเล็กน้อยถูกมือใหญ่ขยำเป็นก้อนกลมก่อนจะโยนทิ้งลงถังขยะแถวๆนั้น
“ฉันจะรีบขย้ำให้จบๆจะได้ออกไปซื้อขนมมากิน”
“นายนี่นะ…สนแต่ของกินมากเกินไปแล้ว อัตสึชิ” ฮิมุโระหัวเราะในลำคอ มองคนที่อ้าปากหาวหวอดๆเดินลากขาทำหน้ามึนเฉื่อยแฉะเดินเคียงคู่ไปกับเขา ในฐานะทีมเดียวกันที่ถูกขนาดนามจากสื่อว่า ‘กำแพงปราการแห่งทวยเทพ’ นั่นคือ ‘โยเซน’
.
.
.
ยิ่งใกล้รอบชิงชนะเลิศแสตนเชียร์ยิ่งหนาแน่นคับคั่งไปด้วยผู้คนมากมายที่พร้อมยินดีซื้อบัตรเข้ามาดูการแข่งขันให้เห็นกับตาตัวเอง แสงแฟลชสว่างวาบตลอดเวลาโดยช่างภาพผู้สื่อข่าวที่พร้อมใจกันมาเก็บภาพการแข่งขันในวันนี้ เสียงร้องฮือฮาดังขึ้นเมื่อผู้เล่นที่จะเป็นดาวเด่นในวันนี้ทั้งสองทีมก้าวเท้าเข้ามาในสนาม
“ใครที่แพ้วันนี้ต้องมาชิงที่ 3 กับพวกเราล่ะเนอะ ชินจัง” บุรุษเรือนผมสีดำเปิดหน้าผากกว้างเท้าแขนลงกับราวระเบียงกั้นตาสีนิลกับความสามารถขอบเขตสายตากว้างไกลประดุจเหยี่ยวทอดมองสนามเบื้องล่าง คนหนุ่มผมสีเขียวพยักหน้าตอบรับพลางดันแว่นทรงเหลี่ยมกรอบดำขึ้นสันจมูก
“ส่วนทีมที่จะชนะวันนี้..จะต้องเข้าไปเจอกับอาคาชิ”
ตาสีมรกตเหลือบมองไปยังเหล่าบุรุษทั้ง 5 คนที่รวมตัวกันไปนั่งอยู่ที่แสตน พวกเขาเหล่านั้นอยู่ในชุดไปรเวทปกติไม่ใช่เสื้อยูนิฟอร์มสีขาวคอปกสีฟ้าอ่อน…ที่โดดเด่นกว่าใครคือชายเรือนผมสีแดงสั้นนั่งอยู่ตรงกลางสวมเสื้อยืดแขนยาวเข้ารูปสีดำกับกางเกงยีนส์สีเทาเข้มนั่งกอดอกด้วยท่าทีสุขุมเยือกเย็น…อาคาชิ เซย์จูโร่ กัปตันทีมราคุซันหรืออดีตกัปตันเหล่ารุ่นปาฏิหาร์ยกับเหล่าราชาไร้มงกุฏทั้งสามกับอีกหนึ่งผู้เล่นปริศนาดับลมหายชูโตคุเสียสิ้นสภาพ
ราคุซันผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ ที่มาวันนี้ก็เพื่อจะดูโฉมหน้าผู้ชนะ
“นี่เซย์จัง คิดว่าใครจะมาเจอพวกเรา โยเซนหรือเซย์ริน” มิบุจิ เรโอะ ถามความเห็นหนุ่มรุ่นน้องที่นั่งอยู่ข้างๆ
“ถ้าเทียบระดับสามารถและความเป็นไปได้ผมคิดว่าโยเซน แต่…” อาคาชิ เซย์จูโร่ ตอบด้วยเสียงทุ้มเรียบเปี่ยมไปด้วยอำนาจ ดวงตาสองสีไม่เข้าคู่ยังคงจดจ้องสนามแข่งขันซึ่งตอนนี้ทั้งสองทีมทยอยกันเดินเข้าสนามประจำตำแหน่งเป็นที่เรียบร้อยในแต่ละฝากฝั่งเขตแดนของตน โดยมีคณะกรรมการยืนอยู่บนเส้นแบ่งเขตแดนถือลูกบาสเก็ตบอลรอนับสัญญาณ
“เซย์รินก็มีคนหัวดื้อที่ไม่เคยคิดจะยอมแพ้อะไรง่ายๆอยู่คนนึง แมตท์นี้ถึงได้น่าสนใจ”
สายตาผู้รับชมในตอนนี้พุ่งมองไปยังลูกบาสเก็ตบอลในมือคณะกรรมการ สัญญาณนกหวีดดังขึ้นพร้อมกับโยนบอลลอยสูงขึ้น!!!
หมับ!!!!
“โยเซนได้บอลแล้ว!!!” กัปตันทีมโยเซนตบบอลเร็วกว่าคิโยชิ ร่างสูงตัวใหญ่กำยำเดาะบอลเลี้ยงลูกรุกเข้ามาในเขตของเซย์ริน นัยน์ตาสีเข้มเห็นทีมผู้เล่นในชุดสีม่วงสลับขาวฝั่งปีกซายวิ่งมารอรับลูก เขาเตรียมส่งบอลให้อีกฝ่ายทำแต้ม
ผัวะ!!!!
“!!!!!”
ร่างเล็กเรือนผมสีฟ้าสั้นมิสไดเร็กชั่นเข้ามาตบแย่งลูกแล้วพาสส่งให้ ผู้เล่นทีมเซย์รินเบอร์ 10 ที่รอรับอยู่อย่างรู้งาน คางามิเลี้ยงลูกบุกเข้าไปในเขตแดนโยเซน ก่อนจะโดนสกัดกั้นโดยชายผมสีดำปรกตาข้างเดียวสวมเสื้อเบอร์ 12 ทั้งสองต่างสบตากันและกันไม่มีใครยอมใคร
“ถึงเวลาแล้วสินะไทกะ” ฮิมุโระยิ้มเย็น ดวงตาสีนิลไร้ซึ่งแววตาอบอุ่นอ่อนโยนเหมือนอดีตที่คางามิเคยสัมผัส ในขณะที่อีกคนตาสีเพลิงกลับสั่นไหว หัวใจของเขายังไม่สามารถควบคุมให้สงบลงได้ในยามต้องเผชิญหน้ากับพี่ชายร่วมสาบาน
…อยากจะเป็นพี่น้องกันตลอดไป…
“คางามิ!!!” เสียงตะโกนเรียกของฮิวงะ จุนเปย์ดึงสติคนผมแดงอมน้ำตาลไหม้ให้กลับมา เขาไหวตัวทันรีบเด้งบอลสับไปมืออีกข้างหลบการจู่โจมแย่งจากฮิมุโระแล้วตัดสินใจโยนส่งให้กัปตันทีมทำชู้ตสามแต้มจากวงนอกทันที
ผัวะ!!!!!
บอลถูกปัดออกไปทั้งที่ยังไม่ทันแตะห่วงเสียด้วยซ้ำ เซย์รินตาโตตกตะลึงมองร่างสูงเรือนผมสีม่วงยาวสไลด์ซอยคลอเคลียลำคอ ก้าวขาเพียงแค่อึดใจก็เปลี่ยนตำแหน่งยกมือปัดลูกให้ออกไปสมกับเป็นตำแหน่ง Center ของทีมโยเซน
“ขี้เกียจกระโดดชะมัด” เสียงทุ้มคางยานพลางอ้าปากหาวหวอดๆ แล้วก็เดินเฉื่อยแฉะลากเท้าไปมาอยู่ใต้แป้นบาสทีมโยเซน ไม่คิดจะขยับเท้าก้าวไปไหนจากเขตแดนตรงนั้น
“เจ้านั่น..เมื่อกี้ยังอยู่ปีกซ้ายเลยนี่” อิซึกิ ชุน อุทาน
“สูงไม่พอยังมีช่วงแขนขาที่ยาวมากด้วยสินะ” ฮิวงะ จุนเปย์ พึมพำ แต่ใช่ว่าเขาจะยอมแพ้ง่ายๆ คุโรโกะวิ่งไปตัดบอลแย่งพาสส่งมาให้พวกเขารับช่วงต่อ หนุ่มหน้าตี๋ผมสีดำวิ่งเลี้ยงลูกบุกไปข้างหน้าด้วยกลยุทธ์เกมส์เร็วของเซย์ริน ดวงตาสีนิลตวัดมองด้วยอีเกิ้ลอายส์ มองหาจุดส่งลูกแล้วปาบอลส่งเข้าสู่มือร่างสูงเรือนผมสีแดงอมน้ำตาลไหม้ชี้ฟู
“บุกเลยคางามิ!!!”
“อุ๊ส!!” ขายาวก้าววิ่งไปด้วยความเร็วเต็มสปีตที่มี มือเดาะกระแทกเลี้ยงลูกไปมาหลบการสกัดกั้นทีมโยเซนเบอร์ 5 กับเบอร์ 11 ไปอย่างรวดเร็ว ในตอนนี้เขาข้ามเขตพุ่งไปยังปีกซ้ายหมายจะชู้ตทำแต้ม!!
“เสียเวลาเปล่านา คางามิน” เงาร่างสูงยักษ์ใหญ่พุ่งเข้ามาขวางกั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ คางามิเบิกตาโพล่งตกตะลึง เหลือบตามองหาจุดส่งก็ไม่มีในตอนนี้ถูกสกัดกั้นไว้หมดแล้ว ทำให้จำต้องตัดสินใจทุ่มกำลังทั้งหมดไปอยู่ที่ขาทั้งสองข้างแล้วส่งแรงถีบกระโดด!!!!
เสี่ยงเป็นเสี่ยง!!!ยังไงก็ต้องลองใช้เมเทโอแจม!!!!
ผัวะ!!!!!!
“!!!!!!!!!!” ตาสีเพลิงเบิกโพล่งตื่นตระหนก รัศมีบอลที่ไม่น่าจะมีใครเอื้อมถึงกลับถูกมุราซากิบาระทำเพียงแค่กระโดดสั้นๆเอื้อมแขนขึ้นแล้วแล้วตบลูกทิ้งกระแทกพื้น ลูกบอลกระเด้งกระดอนเข้าสู่มือฮิมุโระ ทัตสึยะ ทันที หนุ่มผมปิดตาข้างซ้ายเดาะลูกบุกเข้าไปในเขตแดนเซย์รินด้วยความเร็วเต็มสปีต สลับส่งรับกับเพื่อนร่วมทีมโยเซนเบอร์ 5 หลอกล่อให้การ์ด ฮิวงะกับคิโยชิที่หมายเข้ามาสกัดกั้นเป๋ปัด
“บ้าจริง!!!เฟค!!!”
ในช่วงเวลาสุดท้ายฮิมุโระหลอกให้ทุกคนหลงคิดว่าเขาจะส่งบอลให้ ถึงกระนั้นยังมีคนวิ่งไล่ตามเข้ามาขวางทางไว้!!!
“ทัตสึยะ!!!!” เสียงทุ้มคำรามกรรโชกใส่พี่ชายร่วมสาบาน
“นายหยุดฉันไม่ได้หรอก ไทกะ” มือแกร่งตั้งท่าประคองลูกเตรียมชู้ต คางามิกัดฟันกระโดดเตรียมสกัดขวางเอาไว้ ทว่า..วินาทีที่บอลหลุดจากมือ..ลูกบาสที่ควรจะถูกสกัดกลับลอยทะลุผ่านมือร่างสูงราวกับว่าล่องหนหายไปเข้าห่วงไปอย่างง่ายดายด้วย 3 แต้มจากวงนอก
“3 : 0 “
ป้ายคะแนนขึ้นตัวเลขพร้อมกับเสียงเชียร์ลั่นสนาม คางามิ ไทกะ ยืนตาค้างกับลูกชู้ตล่องหน ก่อนจะเหลียวกลับมามองพี่ชายร่วมสาบานที่ยืนนิ่งจ้องมองเขาด้วยท่าทีเยือกเย็น บรรยากาศกดดันแผ่กระจายออกจากตัวทำเอาคนเป็นน้องชายขนลุกเกรียว นัยน์ตาสีเพลิงสั่นไหวก่อนจะเฉหลบเนตรสีนิลเข้มประดับไฝใต้ตา
“ถ้าไทกะยังอ่อนหัดแบบนี้ ก็เตรียมใจแพ้ไว้ได้เลย” ฮิมุโระ ทัตสึยะ กล่าวทิ้งท้ายก่อนจะเดินจากไปสมทบเพื่อนร่วมทีม คนตัวสูงโย่งกว่าใครทั้งหมดบนสนามเหล่มองเอซของทีมสลับกับแสงสว่างแห่งเซย์รินที่ยืนตัวแข็งทื่ออยู่เช่นนั้น มือหยาบใหญ่ยกขึ้นเกาศีรษะไปมาก่อนจะอ้าปากหาว อีกมือนึงลูบท้องที่ร้องดังโครกคราก
“หิวอีกแล้ว อยากรีบจบเกมส์จะได้ไปกินขนมต่อ”
.
.
หมดไปสำหรับควอเตอร์แรกผลคะแนนในตอนนี้ระหว่างโยเซนกับเซย์รินอยู่ที่ 33 : 10 นับว่าเป็นผลห่างของแต้มที่ต่างกันมาก ไม่ใช่ว่าเซย์รินไม่พยายามบุก การประสานระหว่างแสงเงาและกลยุทธ์เกมส์เร็วของเซย์รินทำออกมาได้ดีไร้ที่ติเหมือนเดิม
“พวกนั้นมีเกราะป้องกันที่แกร่งมากจริงๆ” ริโกะไล่ตามองสมาชิกทีมตัวจริงทั้ง 5 คน นั่งพักผ่อนดื่มน้ำเปล่าบนม้านั่งในช่วงพักเบรกก่อนจะเริ่มควอเตอร์ที่สอง นัยน์ตาสีน้ำตาลกลมโตเหลือบมองทีมฝ่ายตรงข้ามบนม้านั่งอีกฝากฝั่งโฟกัสสายตาไปยังผู้เล่นตัวสูงที่สุดในทีมกับเอซของทีมโยเซนที่มีความหลังกับคางามิ ไทกะ มาแต่เก่าก่อน
“เผลอๆ 10 แต้มที่พวกเราได้มา เป็นเพราะความขี้เกียจของมุราซากิบาระที่จะป้องกันด้วยซ้ำ” สิ้นคำพูดของอิซึกิ ทุกคนถึงกับหน้าเคร่งเครียด พวกเขารู้ดีว่ากำลังเผชิญหน้ากับรุ่นปาฏิหาร์ยและคราวนี้ยังมีเอซเปี่ยมทักษะว่องไวเท่าคางามิ ไหนจะลูกชู้ตล่องหนที่ถูกตั้งชื่อว่า ‘มิราจ’ ที่ไม่สามารถหยุดยั้งได้อีก
นอกจากเป็นกำแพงเมืองที่แข็งแกร่ง เหล่าทหารเฝ้ายามก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน
“คุโรโกะ…” คางามิที่เอาแต่กลับมานั่งเงียบอยู่นานสองนานไม่พูดไม่จาผิดวิสัยเอ่ยเรียกคู่หู ร่างบอบบางปลอมเป็นผู้ชายละริมฝีปากจากขวดน้ำเหลียวมองคนข้างตัวก็พบกับ..สร้อยโลหะร้อยแหวนโลหะเกลี้ยงหนึ่งวง
“เธอช่วยเอาไปทิ้งให้ฉันที” คำขอของคนตัวสูงทำเอาทุกคนตาโต คุโรโกะทำเพียงเลิกคิ้วสูงเล็กน้อยมองแหวนสลับกับใบหน้าคมคายที่ไม่แม้แต่เหลียวมองมายังเธอ
“คางามิคุงแน่ใจแล้วเหรอคะ?” เธอถามย้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ คางามิมุ่นคิ้วสองแฉกปิดตาแน่นอยู่พักนึงก่อนจะลืมตาช้าๆ หันมาสบตาสีฟ้าจืดจาง…ด้วยดวงเนตรสีเพลิงที่หาได้มีความลังเลอีกต่อไป
“ทัตสึยะพูดถูก..ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะเราสองคนก็กลับมาเป็นพี่น้องเหมือนเดิมไม่ได้อีกแล้ว” เขาเงียบไปอึดใจหนึ่ง แล้วพูดต่อทั้งเสียงทุ้มหนักแน่น “ฉันไม่อยากแพ้ ถ้าเป็นแบบนั้นฉันคงเสียใจและรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต”
อัศวินแห่งแสงถึงเวลาต้องจับดาบเข้าปะทะคธาของจอมเวทย์เหมันต์
เปลวเพลิงอันร้อนแรงหรือวารีอันหนาวเหน็บ..ผู้ใดจะเป็นฝ่ายปราชัย
ทุกคนพยักหน้ายอมรับการตัดสินใจที่ยากลำบากที่สุดในชีวิตของคนหนุ่มเลือดร้อนระอุ มือเล็กรีบแหวนเงินมาเคารพการตัดสินใจของอีกฝ่ายและยินดีที่จะทำตามคำขอเหล่านั้น ทุกคนเชื่อใจในตัวเอซเซย์ริน เคารพการตัดสินใจของเขาที่พร้อมจะประจัญหน้ากับเอซฝ่ายตรงข้าม
ปี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
สัญญาณออดบอกหมดเวลาพักและเริ่มต้นเข้าสู่ควอเตอร์สอง ฮิวงะตบมือเรียกให้ทุกคนมายืนล้อมวงสรุปแผนการที่จะเริ่มรุกทำแต้มในครั้งต่อๆไป ทว่า..จู่ๆสาวร่างเล็กในเสื้อนักกีฬาเบอร์ 11 กลับยกมือขึ้นมาขอพูดอะไรบางอย่าง
“กัปตันคะ..ฉันมีเรื่องอยากจะขอ” ทุกคนหันมามองผู้เล่นเงาลวงตา เธอไล่สบตาฉงนงุนงงและรอรับฟังเธออย่างตั้งใจทีละคน
“ให้ฉันเป็นคนทลายเขตป้องกันของมุราซากิบาระคุงเถอะค่ะ”
“ห่ะ!!!” หนุ่มสวมแว่นตาถลนออกจากเบ้า มองคนที่ตัวเล็กกว่าใครเพื่อนคิดจะไปงัดกับคนตัวสูงใหญ่แถมเป็นถึงหนึ่งในรุ่นปาฏิหาร์ยอีก มองยังไงก็เหมือนเอามวยเด็กไปปะทะมวยรุ่นใหญ่ชัดๆ!!! เขากำลังจะอ้าปากปฏิเสธกลับถูกคิโยชิแทรกชิงอนุญาตเสียอย่างงั้น
“เข้าใจล่ะ ฉันเองก็จะช่วยสนับสนุนเธอในฐานะ Center นะ” มือใหญ่อูมกว่าคนทั่วไปวางลงบนบ่าเล็กๆ คุโรโกะเงยหน้าสบตารุ่นพี่เรือนผมสีน้ำตาลใบหน้าเปื้อนยิ้มอบอุ่นตลอดเวลา ปากอิ่มคลี่ยิ้มน้อยๆขอบคุณที่อีกฝ่ายไว้วางใจ
“เดี๋ยวสิคิโยชิ!!”
“เอาน่าฮิวงะ ทุกครั้งพวกเราก็ผ่านวิกฤติมาได้ก็เพราะแผนของคุโรโกะไม่ใช่เหรอ” คิโยชิ เทปเปย์หัวเราะร่วน ตาสีน้ำตาลเรียวคมปรายมองไปยังร่างสูงเรือนผมสีม่วงซอยสไลด์ประบ่า..ลอบมองอยู่ในจุดห่างไกลเพียงแต่คนๆนั้นไม่เคยคิดแยแสมองเห็นหัวใครในสนามทั้งนั้น
“อีกอย่างฉันเองก็มีเรื่องศักดิ์ศรีของ Center กับเด็กคนนั้นเป็นการส่วนตัว”
สีหน้าเอาจริงเอาจังบนใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม แววตามุ่งมั่นมากผิดปกติทำเอาฮิวงะสะอึก กัปตันทีมเซย์รินพ่นลมหายใจแรงยกมือเกาหัวแกรกๆ จำต้องยอมรับความเอาแต่ใจของผู้เล่นทั้งสองที่มีเป้าหมายเพียงหนึ่งคือล้มป้อมปราการยักษา
.
.
“โยเซนนำอยู่ควอเตอร์แรกด้วยคะแนนที่ทิ้งช่วงห่างมาก ถ้ายังใช้แผนแบบเดิมๆอีก..ผลตัดสินจะชัดเจนทั้งที่ยังไม่ถึงควอเตอร์ 3 ด้วยซ้ำ” หนุ่มร่างสูงเรือนผมสีเขียวดูการแข่งขันที่ดำเนินอีกครั้งหลังสิ้นสัญญาณ ในตอนนี้เซย์รินเป็นฝ่ายถือบอลกำลังบุกตีเข้าหมายทำแต้มด้วยเกมส์เร็ว
“ถ้าเทียบความเร็วเซย์รินเหนือกว่า อีกฝ่ายมีการป้องกันที่แกร่งกว่าแถมยังมีตัวบุกที่น่ากลัวด้วยแล้ว..เหมือนเอาดาบไปฟันกำแพงชัดๆ “ ทาคาโอะเปรียบเปรยสถานการณ์ตอนนี้ สิ่งที่เขาเห็นคือความพยายามอันแสนไร้ค่าแต่ก็ยังดึงดันที่จะทำต่อไป ดวงเนตรสีนิลมองใบหน้าคมคายประดับแว่นสายตาครึ่งซีกยังคงตีหน้าเรียบเฉย ผิดกับเม็ดเหงื่อที่ไหลลาดจากขมับลงมา
“ชินจังเชียร์คุโรโกะจังก็บอกมาเถอะ” ทาคาโอะแซว
“พูดอะไรไร้สาระ ฉันมาก็เพื่อดูว่าใครจะแพ้แล้วมาเจอฉันก็แค่นั้น” บอกปฏิเสธพลางดันแว่นขึ้นสันรัวๆ เป็นกริยาของคนโกหกที่ตอนนี้หนุ่มผมดำจับสังเกตได้มาพักนึงแล้ว ใจอยากจะล้อเลียนอยู่แต่ขืนบอกก็คงไม่สนุกเลยแสร้งทำเป็นยักไหล่ไม่รู้ไม่ชี้แล้วทอดสายตามองการแข่งขันเบื้องล่าง
สู้ๆนะ คุโรโกะจัง..ฉันจับตาดูเธออยู่นะ..
.
.
หมับ!!!!!
ลูกบอลตัดแย่งจากมือโยเซนเบอร์ 4 ออกไป ด้วยฝ่ามือของ point guard ของเซย์ริน อิซึกิรีบใช้อีเกิ้ลอายส์ส่งบอลไปให้ร่างสูงเรือนผมสีแดงอมน้ำตาลไหม้ เอซเซย์รินไม่รอช้าเลี้ยงลูกบุกเข้าไปด้วยความเร็ว ปลายหางตาเขาเห็นอีกหนึ่งคนที่ไล่ตามเข้ากระชั้นชิดซึ่งไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก…
“ต่อให้ไปถึงแป้น นายก็ทำแต้มไม่ได้หรอกไทกะ” ฮิมุโระยกยิ้มมุมปาก ตาสีนิลมองร่างสูงเรือนผมสีม่วงซอยสไลด์คลอเคลียคอหนายืนนิ่งอยู่ใต้แป้นสัปหงกๆตาปรอยอยู่แบบนั้น
“ใครว่าฉันจะทำแต้มกันทัตสึยะ!” สิ้นเสียงทุ้มกร้าว มือแกร่งผลักบอลส่งกระแทกไปด้านหลังลอดระหว่างขา พริบตาเห็นเงาร่างที่ไม่รู้ว่ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ปรากฏตัวเข้ามารับบอลเอาไว้แล้วเลี้ยงบุกไปข้างหน้า!!!
“ผู้เล่นเบอร์ 11 มาตั้งแต่เมื่อไหร่!!?” โยเซนเบอร์ 5 วิ่งเข้ามาสกัดขวาง ตาสีเทาเบิกโพล่งตกตะลึงสุดขีดเมื่อคนผมสีฟ้าอ่อนกลับหายตัวไปปรากฏอยู่เบื้องหลังแทน ด้วยทักษะการเลี้ยงลูกใหม่ที่เรียกขานว่า Vanish drive
มุราซากิบาระ อัตสึชิ เลิกคิ้วเล็กน้อย มองคนตัวเล็กๆเดาะเลี้ยงลูกบุกเข้ามา ความเร็วก็ไม่ได้มากเท่าคนอื่น ออกจะพื้นฐานกลางๆเสียด้วยซ้ำ ร่างสูงใหญ่อ้าปากหาวหวอดๆ แล้วขยับเท้าเพียงไม่กี่ก้าวเข้ามาสกัดขวางคนตัวเล็กไว้ได้ทัน
“คนที่ไม่เคยชู้ตลงอย่างคุโรจินพยายามไปก็เท่านั้น ไม่มีทางทำแต้มผ่านฉันไปได้หรอกนา ”
“ฉันจะไม่ยอมแพ้หรอกค่ะ คนที่เกิดมาพร้อมพรสวรรค์อย่างมุราซากิบาระคุงไม่มีทางเข้าใจหรอก” คุโรโกะ เท็ตสึยะ พูดแทงใจคนตัวสูง สร้างความหงุดหงิดให้แก่เขาเข้าอย่างจัง
มาอีกแล้ว ความน่ารำคาญของคุโรจิน ช่างน่าหงุดหงิดนัก!!!
“ได้…ถ้างั้นฉันจะขย้ำเธอเดี๋ยวนี้!!!” มือใหญ่ชูสูงตั้งท่าเตรียมตะปบลูกในจังหวะเดียวกับที่เจ้าของเรือนผมสีฟ้าตั้งมือทั้งสองประคองลูกบาสและผลักขึ้นสูงชู้ตลูกออกไป
“!!!!!!!!!!!!!!”
บอลหายไปจากมือสายตาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ไม่ใช่ล่องหนแบบฮิมุโระแต่มันหายไป..รู้อีกทีเสียงลูกบาสหลุดเข้าห่วงลงกระแทกพื้นซ้ำๆไปมาดังก้องสมองคนตัวสูงใหญ่ยักษ์ มุราซากิบาระตาโตเท่าไข่ห่านเหลียวกลับไปมองลูกบาสที่กำลังจะถูกคิโยชิพุ่งเข้ามารีบาวน์ เขารีบวิ่งเข้าไปอย่างรวดเร็วกระโดดหมายแย่งเอาลูกคืน
ปึง!!!!!
“33 : 14” เซย์รินทำแต้มทีเดียวไปด้วยลูกชู้ต 3 แต้มกับวงในอีก 1 แต้มรวมแล้วเป็น 4 แต้มผ่านด่านเขตป้องกันที่หนาแน่นที่สุดไปได้ แม้ผลต่างของคะแนนจะห่างกันมาก เหล่าโยเซนเริ่มหน้าซีดรับรู้ถึงภัยอันตรายแผ่กระจายจากทีมคู่แข่งในชุดสีดำแถบขาวแดง โดยเฉพาะคนที่ไม่เคยถูกคุกคามรุกล้ำเข้ามาในอาณาเขตอย่างมุราซากิบาระ ย่อมรู้สึกสูญเสียหนักขึ้นกว่าคนอื่นโดยทั่วไป
“อย่าประมาทเชียวนะ ไม่อย่างนั้นฉันจะรีบาวน์แย่งไปได้อีก..ตอนนั้นฉันแทบเอาคืนไม่ได้ ในที่สุดก็ทำได้ซักที” คิโยชิ เทปเปย์ ยิ้มระรื่นให้คนตัวสูงใหญ่ ดวงเนตรสีอเมทิสต์ถลึงใส่หนุ่มรุ่นพี่ที่ยังคงยิ้มร่าได้อยู่
“นายเป็นใคร?”
“เห!? จำไม่ได้สินะ..เอาเถอะ ก็ไม่แปลกใจหรอกนะ ฮะๆ มาพยายามเล่นบาสให้สนุกกันเถอะนะ” คิโยชิเกาหัวแกรกๆ วิ่งเหยาะกลับไปร่วมสมทบทีม ทิ้งคนผมสีม่วงที่เริ่มเดือดดาลเอาไว้ มือแกร่งกำหมัดแน่นมองคุโรโกะกับคิโยชิวิ่งเคียงคู่กันยิ้มชื่นชมให้กันและกันที่สามารถทลายเขตป้องกันที่เขาเป็นคนสร้างขึ้น
บาสเก็ตบอลสนุกงั้นเหรอ? มีแต่พวกน่ารำคาญทั้งนั้น!!!
“ฉันจะขย้ำพวกนายทั้งสองคนให้ดู!!”
“ทำบ้าอะไรมุราซากิบาระ!!!!” ทีมโยเซนร้องเสียงหลง จู่ๆ center จอมขี้เกียจถีบตัววิ่งไล่กวดบุกขึ้นออกจากเขตแดนตัวเอง คางามิซึ่งได้รับลูกพาสจากคุโรโกะสัมผัสได้ถึงเงาร่างใหญ่วิ่งไล่ตามมา ความกดดันแผ่ไล่กลางหลังทำให้นัยน์ตาสีเพลิงเหลือบไปมอง
มาตั้งแต่เมื่อไหร่!!!
“คางามิ!!!เร็วเข้า!!!!” ฮิวงะรีบวิ่งเข้ามารอตรงวงนอก ชายหนุ่มผมแดงอมน้ำตาลไหม้กัดฟันกรอดเลี้ยวหลอกล่อไปทางขวาให้อีกฝ่ายหลงตายใจ ทั้งที่ความจริงเขาจะเคลื่อนวิ่งไปทางซ้าย
ผัวะ!!!!
“!!!!!!!” ช่วงแขนที่ยาวกว่าตบแย่งลูกไป มุราซากิบาระได้ลูกแล้วเดาะเลี้ยงบุกไปไม่สนใจกระบวนตำแหน่งแผนการเล่นที่วางเอาไว้ นัยน์ตาสีอเมทิสต์จ้องเขม็งเพียงแป้นบาสฝั่งเซย์รินเท่านั้นที่ต้องการหมายทำแต้ม กระแทกเย้ยหยั่นให้ทั้งสองคนที่ริอาจมาต่อกรกับเขาให้รู้ซึ้ง
ให้พยายามไปก็ไร้ประโยชน์!!!!บาสเก็ตบอลก็เป็นแค่กีฬางี่เง่าที่มีไว้สำหรับคนบางคนเท่านั้น!!!!
ชายหนุ่มร่างสูงผมสีน้ำตาลกระโดดไล่ตามเขามาติดๆ ใบหน้าคมล้อมเส้นผมสีม่วงเบิกตาโพล่งมองคนๆนั้น..เซย์รินเบอร์ 7 ที่ทำให้เขาหัวเสียได้พอๆกับคุโรโกะ กำลังเอื้อมแขนอย่างเอาเป็นเอาตายหมายจะปัดลูกให้จากมือ
“ไม่มีทาง!!”
ปึง!!!!!!!!
มือแกร่งตบบอลดังก์กระแทกห่วงแรงจนแป้นบาสโอนเอนไปมาหวิดล้มพัง ส่วนสูงของคิโยชิไม่อาจเอื้อมกระโดดถึงคนที่สูงแต่กำเนิดเหยียด 200 เซนติเมตรได้ ทั้งสองหย่อนเท้าลงเหยียบพื้นพากันหายใจหอบหนัก เนตรสีอเมทิสต์เหยียดมองอีกฝ่ายโก่งตัวมือเท้าเข่าหายใจหอบ
“นายนี่สมเป็นสุดยอด Center จริงๆ สนุกมากๆเลยล่ะ ครั้งต่อไปฉันไม่พลาดแน่” แทนที่จะหวาดกลัวฝังลึกเข้าไปในใจ กลับยิ้มสดใสได้อีก มุราซากิบาระเบิกตาโพล่งตกใจ…มองใบหน้าเปื้อนยิ้มผิดจากที่คาดหวังเอาไว้
ทำไมไม่ตัดใจ…ทำไมถึงไม่เลิกรา..คนๆนี้..
“นาย…คิโยชิ ใจเหล็กแห่งราชาไร้มงกุฎสินะ” ในที่สุดก็นึกออกแล้ว..พวกเขาเคยเจอแข่งกันสมัย ม.ต้น ในเวลานั้นพรสวรรค์ในตัวทุกคนทยอยตื่นขึ้นมา มุราซากิบาระเองก็เช่นกัน..ในการแข่งแมตท์นั้นมีอยู่ทีมหนึ่งที่มี Center ตัวดีที่ไม่ว่าจะยังไงก็ไม่ยอมตัดใจจวบจนสิ้นสัญญาณออดกลับยังยิ้มร่าออกมาได้ด้วยประโยคน่าหงุดหงิดเป็นที่สุดเหมือนเมื่อครู่
“นายจำได้แล้วสินะ” คิโยชิยกคอเสื้อขึ้นเช็ดเหงื่อ สบตาสีอเมทิสต์แข็งกร้าววาวโรจน์ดูน่าสะพรึง
“จำได้แล้ว..นายผิดเองที่ทำให้ฉันจำได้” มือแกร่งใหญ่ยกขึ้นมา บดบังใบหน้าอีกฝ่ายในระดับสายตาก่อนจะกำหมัดแน่นจนเล็บจิกเข้าเนื้อ “จากนี้ไปฉันจะขย้ำนายให้ตาย!!”
ยักษาผู้ดำรงเป็นป้อมปราการเกรี้ยวกราดแล้วไซร้ ก็ยากที่ใครจะไปหยุดยั้ง…เว้นเสียแต่…
ฝุ่บ!!!!!
“แฟมธ่อมชู้ตเบอร์ 11 มาแล้วครับ ทำแต้มติดๆกันอย่างต่อเนื่อง แบบนี้ป้อมปราการทวยเทพคงได้ถึงคราวสะเทือนแล้ว!!” โฆษกรายงานการแข่งขันออกรสออกชาติด้วยเสียงทุ้มตื่นเต้น คุโรโกะ เท็ตสึยะ ได้กลายเป็นแกนหลักในการเผชิญหน้ากับมุราซากิบาระ ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหนก็ไม่อาจหยุดลูกชู้ตของเธอได้ จนตอนนี้คะแนนตีตื้นขึ้นมาห่างกันเพียง 2 แต้มเท่านั้น
มุราซากิบาระ อัตสึชิ เป็นหนึ่งในรุ่นปาฏิหาร์ยที่มากความสามารถทั้งพละกำลัง ส่วนสูง และการป้องกัน
ข้อเสียอยู่ที่นิสัยเด็กเอาแต่ใจจนยากจะควบคุม..ยิ่งโมโหเมื่อไหร่ไม่ว่าใครก็ฉุดไม่อยู่
“คุโรจิน!!!!!!!!!!!!!!” บอลกระแทกเข้าสู่มือเล็ก นัยน์ตาสีฟ้าสะท้อนร่างสูงใหญ่พุ่งเข้ามาหมายสกัดแย่งบอล เงาร่างใหญ่โตมโหฬารหาได้ทำให้เธอหวาดกลัว หญิงสาวปลอมเป็นชายยังคงตั้งท่าชู้ตที่ได้รับการสอนจากอาโอมิเนะแล้วผลักบอลปล่อยลงห่วงไปอย่างงดงาม
ปี๊ดดดดดดดดดดดดดดด
หมดเวลาสำหรับควอเตอร์ที่ 2 ในที่สุดเซย์รินก็เป็นฝ่ายทำแต้มนำไปด้วยลูกชู้ต 3 แต้มจากเงาลวงตา ทุกคนทยอยกลับมานั่งพักเบรกในฝั่งตัวเอง ต่างคนต่างตบหลังขยี้หัวสาวน้อยที่ลุยบุกกับคนตัวใหญ่ยักษ์โดยมีคิโยชิคอยสกรีนมุราซากิบาระประกบสองชั้นตลอด นัยเนตรสีฟ้ามองผลคะแนนที่ตอนนี้ต่างกันอยู่ที่ 40 : 43 นับว่าเป็นที่น่าพอใจ
“เรานำแล้ว 3 แต้มใช่ว่าจะนำได้ตลอด โชคดีที่มุราซากิบาระเป็นนักกีฬาประเภทไม่ค่อยใช้สมองเหมือนคางามิกับอาโอมิเนะ แถมยังมีความเป็นเด็กในตัวสูง แต่อย่าลืมว่าหมอนั่นคือรุ่นปาฏิหาร์ยอะไรๆก็เกิดขึ้นได้ ทำดีมากคุโรโกะ คิโยชิ” ริโกะชมผู้เล่นทั้งสอง ถึงอย่างนั้นก็ยังมีอุปสรรคบางอย่างที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
“ครบ 40 นาที ตอนนี้ต้องเปลี่ยนตัวคุโรโกะก่อน มิโตเบะสกัดกั้นมุราซากิบาระกับคิโยชิ เอาตามแผนนี้”
ขีดจำกัดมิสไดเร็กชั่นมาที่สุด โค้ชสาวรู้ว่านี่เป็นโอกาสดีที่จะบุกทำแต้มให้มากสุดจากฝีมือชู้ตของคุโรโกะ ทว่า..หน้าที่ของเธอคือการส่งพาสไปมาในสนามอย่างไร้ตัวตน คงต้องเก็บไม้ตายนี้เอาไว้ใช้ใหม่ในช่วงเวลาท้ายๆ ใบหน้าหวานล้อมผมซอยสั้นสีน้ำตาลติดกิ๊ฟเหลียวมองเอซเซย์รินที่เอาแต่ประจัญหน้ากับพี่ชายอย่างสุดความสามารถ เขาทำแต้มได้บ้างแต่ไม่ใช่ว่าทำได้บ่อยและยังไม่สามารถหยุดลูกชู้ตมิราจได้
“คางามิคุง..” คู่หูเงาเริ่มเป็นห่วงแสงสว่าง เอาแต่นั่งเงียบผ้าขนหนูปิดหัวอยู่เช่นนั้น มือเล็กๆเอื้อมหมายจะเข้าไปแตะ พลัน!!ร่างสูงกลับผุดลุกขึ้นยืนดึงผ้าขนหนูออกจากหัว
“ฉันมองออกแล้ว ลูกชู้ตมิราจ…จากนี้ไปฉันจะทำลายมันเอง” เพื่อทีม..เพื่อชัยชนะ..และการตัดสินระหว่างพี่น้องนั้นได้มาถึงแล้วในควอเตอร์ที่ 3 ที่กำลังจะเริ่ม ณ บัดนี้
หมับ!!!!
เปิดเกมส์ในคราวนี้คนที่บุกคือชายร่างสูงเรือนผมสีเทาอ่อนสวมชุดนักกีฬาสีม่วงขาวเบอร์ 5 นัยน์ตาสีคู่คมสีอ่อน หมายจะทำ 3 แต้มเพื่อถีบคะแนนให้สูงขึ้น กระนั้นกลับถูกอิซิกิตบแย่งไปหน้าตาเฉยแล้วส่งต่อให้ฮิวงะทำชู้ต 3 แต้มแทน มุราซากิบาระสบถคำรามต่ำสืบเท้าเข้ามาหมายขวางกั้นกลับถูกคิโยชิกับมิโตเบะสกรีนดันขวางเข้าไว้ไม่ยอมถอย
“คิโยชิ!!!” ร่างสูงโย่งคำรามเกรี้ยวกราดใส่คนที่เหม็นขี้หน้าเป็นที่สุด สถานการณ์ตอนนี้ลูกบาสถูกชู้ตปล่อยออกมาแล้ว มุราซากิบาระอาศัยความสูงกระโดดเต็มแรงหมายเข้าปัดลูกได้สำเร็จ
“ยังหรอกน่า!!!” คิโยชิกระโดดคว้าบอลได้ทันหมุนตัวตั้งท่าดังก์ลงห่วง
ผัวะ!!!
ฮิมุโระ ทัตสึยะ วิ่งเข้ามาตบแย่งบอลแล้วบุกวิ่งเลี้ยงลูกขึ้นไปอย่างรวดเร็ว โยเซนเริ่มถีบตัววิ่งตามให้ทันอีกฝ่ายคอยประสานงานรับส่งลูกจากอีกฝ่าย
“สกัดไว้!!!” คิโยชิตื่นตระหนกตะโกนเตือนเพื่อนร่วมทีม เพราะมัวแต่งัดกับมุราซากิบาระถึงได้ลืมไปว่ามีเอซอันตรายอีกคน
ฮิมุโระยิ้มสบายๆ เอี่ยวหลบไปอย่างรวดเร็ว หลุดจากการขวางกั้นของอิซึกิและฮิวงะ ตาสีนิลคมเยือกเย็นประดับไฝใต้ตา มุ่งเพียงแป้นบาสเซย์รินตรงหน้าเท่านั้น
เอี๊ยด!!!
รองเท้ายางเสียดสีพื้นสนามดังลั่น คางามิ ไทกะวิ่งเข้ามาขวางกั้นพี่ชายร่วมสาบาน ฮิมุโระกระตุกยิ้มเหยียดพอใจที่ได้เห็นคนที่เขาต้องการวัดผลแพ้ชนะมากที่สุดมายืนประจัญหน้ากัน ตาสีเพลิงสะท้อนร่างสูงเทียบเท่าตัวเองกำลังตั้งท่าจะชู้ต
“ไทกะนายน่ะแพ้ฉันแล้ว”
“ใครบอกล่ะทัตสึยะ เกมส์ยังไม่จบซักหน่อย!!!” คางามิชิงกระโดดสูงเหมือนเคยในจังหวะฮิมุโระกำลังตั้งท่าจะชู้ต แต่แล้วนัยน์ตาสีดำเบิกโพล่งตกตะลึงอ้าปากค้าง ลูกบอลถูกปล่อยให้หลุดออกจากมือไปแล้ว ทว่า..คางามิกลับไม่ได้กระโดด!!!
“เฟคงั้นเหรอ!?”
“ลูกชู้ตมิราจจริงๆไม่ได้ทะลุผ่านมือไปได้ ก็แค่เป็นการเฟคที่ไหลลื่นอย่างเป็นธรรมชาติก็เท่านั้น ถ้าจับจุดได้…” ขาทั้งสองถีบตัวกระโดดสูงเอื้อมแขนปัดลูกบาสออกไปทันก่อนถึงแป้น โดยไม่สนใจสีหน้าตื่นตระหนกของพี่ชายแม้แต่นิด
“ก็ทำลายได้เช่นกัน ถึงตาฉันบ้างแล้วทัตสึยะ!!” คางามิ ไทกะคว้าลูกวิ่งบุกสวนผ่านร่างสูงเรือนผมสีดำปรกตาซ้าย ด้วยความเร็วเต็มพิกัด เวลาที่เสียไปก่อนหน้านั้นเพราะมัวแต่โลเลยังจมอยู่กับความฝันในวันวานอันแสนสุขระหว่างเราสอง
“นี่น่ะเป็นแหวนสลักชื่อฉันกับไทกะเอาไว้ เป็นสัญญาของเราสองพี่น้อง”
“จากนี่ไปไทกะคือน้องชายของฉัน ”
เมื่อเติบโตขึ้นถึงได้เข้าใจ..ไม่มีอีกแล้ว..ไม่มีแล้วจริงๆ คางามิกัดฟันแน่นมองตรงไปเบื้องหน้า..มองเหล่าแผ่นหลังเพื่อนร่วมทีมทุกคน สิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือต้องเอาชนะไปให้ได้ เขาเองก็ถึงเวลาที่จะต้องปล่อยวางเรื่องในอดีตแล้วทุ่มพละกำลังที่มีทั้งหมด!! ร่างสูงกระโดดไกลราวกับว่ามีปีกเทพยดาโผบินสู่ฝากฟ้า เป็นระยะกระโดดที่สูงจนทุกคนในสนามการแข่งขันยันผู้เข้าเชียร์ทั้งหลายตกตะลึง จับลูกบอลให้มั่นดังก์กระแทกลงห่วงไปเต็มแรงจนแป้นบาสโอนเอน
ปึง!!!!!!!!!
ทั้งสนามเงียบกริบไม่มีใครพูดอะไร ทุกคนยังคงอึ้งกับแรงกระโดดที่มากมายมหาศาลที่สุดเท่าที่เคยเห็นในระดับ ม.ปลาย โดดเด่นจนน่าใจหายราวกับว่า…
“พรสวรรค์ของคางามิ ไทกะ คือการกระโดดสินะ” อาคาชิกล่าวทั้งเสียงเรียบนิ่ง ตาสองสีจ้องมองคนตัวสูงเรือนผมสีแดงอมน้ำตาลไหม้..ชายหนุ่มที่คุโรโกะ เท็ตสึยะ เลือกให้เป็นแสงสว่างเข้ามาต่อกรกับเหล่ารุ่นปาฏิหาร์ยคนแล้วคนเล่า
รุ่นปาฏิหาร์ยมีด้วยกันทั้งหมด 5 คน ก้าวผ่านประตูบานพิเศษและปิดตายไปเป็นเวลานานแสนนาน
เวลานี้ประตูนั้นได้ถูกเปิดออกโดยชายหนุ่มผู้มีพรสวรรค์อีกคน..ปาฏิหาร์ยอีกหนึ่งที่อยู่แยกออกไป
“เซนส์ของฉันไม่ผิดจริงๆ” มิโดริมะ ชินทาโร่ จ้องมองผู้เล่นเบอร์ 10 ครั้นปะทะกันในอินเตอร์ไฮน์ คางามิยังเป็นผู้เล่นระดับธรรมดาคนหนึ่ง กระทั่งความพยายามที่จะกระโดดให้สูงขึ้นเพื่อเอื้อมแตะให้ถึงลูกชู้ตสามแต้มอันไร้ขีดจำกัดของเขา..
แรงกระโดดนั่นคือลางบอกเหตุพรสวรรค์
.
.
ควอเตอร์ที่ 3 จบลงไปเป็นที่เรียบร้อย ม้านั่งฝั่งเซย์รินยังคงอยู่กันอย่างสบายๆ ผิดกับด้านโยเซนเต็มไปด้วยบรรยากาศเคร่งเครียด โค้ชสาวเรือนผมสีดำยาวสลวยถือดาบไม้กวาดสายตามองสมาชิกตัวจริงเหงื่อโชกไปทั้งตัวหายใจหอบหนักจนน่าสังเวชนัก
กำแพงแห่งทวยเทพเกิดรอยร้าวเสียแล้ว ความเป็นทีมเริ่มแตกคอกัน
อนึ่งเพราะทั้งเอซและ Center โดนถล่มยับล้มไม่เป็นท่า
“มุราซากิบาระ สงบสติอารมณ์ซะ อย่าคล้อยตามโทสะให้มาก” โค้ชสาวดุเจ้าของเรือนผมสีม่วงซอยสไลด์ประบ่าเอาแต่นั่งก้มหน้านิ่งเงียบ ร่างสูงใหญ่พ่นลมหายใจถี่แรงก่อนจะเงยหน้ากลอกตาขึ้นเพดานชักสีหน้าเบื่อโลกขึ้นมาเสียอย่างนั้น
“ไม่ลงแล้ว ขี้เกียจ”
“อะไรนะ!!? พูดแบบนี้หมายความว่าไง?”
“หนวกหูนา..บอกว่าขี้เกียจก็คือขี้เกียจไม่ได้ยินรึไง จะพยายามให้มากมายทำไมกันนักหนาก็แค่กีฬาง่ายๆที่ใครๆก็เล่นได้”
“ไอ้เด็กคน…”
ผัวะ!!!!!
ฮิมุโระที่นั่งเงียบสงบใจมานานกลับกลายเป็นคนที่เข้ามาประเคนหมัดใส่หน้าร่างสูงโย่งตัวใหญ่ มือแกร่งกระชากคอเสื้อคนเฉื่อยชาให้หันกลับมาสบตาระยะใกล้ ไม่สนเสียงห้ามปรามของโค้ชสาวที่กำลังจะอ้าปากเทศนาสั่งสอน ตอนนี้กลายเป็นต้องพูดห้ามทัพระหว่างคนสองคนในทีมแทน
“นายพูดแบบนี้ได้ไงอัตสึชิ นายจะทิ้งทุกอย่างไปง่ายๆแบบนี้ได้ยังไง!!!”
“แล้วเกี่ยวอะไรกับมุโรจินล่ะ ฉันจะเล่นหรือไม่เล่นก็ไม่สำคัญ”
“นายมันไม่เข้าใจอะไรเลยอัตสึชิ!!!”
“หยุดเลยทั้งสองคน!!พอได้แล้ว!!!!”
กัปตันทีมต้องอาศัยความเป็นผู้ใหญ่จับแยกเด็กปีหนึ่งทั้งสองคนให้ออกจากกัน หน้าเอื่อยเฉื่อยชักสีหน้าทะมึนใส่คนที่เข้ามาต่อยหน้าเขาจนแก้มชา เนตรสีอเมทิสต์เบิกกว้างสะท้อนหน้าหล่อเหลาดั่งเทพบุตรกำลังหลั่งน้ำตาทั้งรอยยิ้มสมเพชเวทนาตัวเองออกมา…ฮิมุโระ ทัตสึยะ กำลังร้องไห้เสียใจซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน
“ฉันรู้ว่าฉันพยายามไปก็คงไม่มีวันเทียบรุ่นปาฏิหาร์ยได้ ไม่มีวันเทียบเท่าไทกะได้..เพราะฉันไม่มีพรสวรรค์ ฉันถึงได้อิจฉานายมากๆ อิจฉานายเหลือเกิน…รู้ไหม”
หนทางที่จะวิ่งข้ามผ่านไปข้างหน้าถูกขีดจำกัดขวางกั้นไว้ด้วยคำที่เรียกขานว่า ‘พรสวรรค์’
“……….” ไม่มีใครพูดอะไรต่อ ต่างคนต่างเงียบไม่กล้าที่จะเอื่อยเอื้อนอะไรในเวลานี้…คนตัวสูงใหญ่จ้องมองใบหน้าเปื้อนน้ำตานั่นอยู่นานสองนาน ก่อนจะเป็นฝ่ายหลุบสายตาลงถอนหายใจแรงและลุกขึ้นยืนเหยียดเต็มความสูงเดินสวนผ่านชายผมสีดำปรกตาซ้าย กวาดสายตามองสนามบาสที่โล่งเตียนในช่วงเวลาพักเบรกคั้นการแข่ง ก่อนจะเลื่อนไปยังหน้าจอคะแนนที่ขึ้นผลต่างระหว่างโยเซนกับเซย์รินอยู่ที่ 65 : 73
“ไม่ว่าใครก็น่ารำคาญไปหมด โดยเฉพาะนาย..น่ารำคาญที่สุด “ เขากล่าวทั้งเสียงคางยานเจือหงุดหงิดพร้อมแบมือไปหาโค้ชสาวประจำทีมของตน “โค้ช…ขอหนังยางหน่อย”
.
.
ช่วงสุดท้ายของการแข่งขันมาถึงแล้วสำหรับโยเซนปะทะเซย์ริน คุโรโกะ เท็ตสึยะกลับเข้าสู่สนามอีกครั้ง จู่ๆขนทั่วทั้งร่างลุกเกรียว ใบหน้าหวานหันไปมองทีมฝั่งโยเซนเดินกลับเข้าสู่สนามประจำที่ในฝั่งตรงข้าม บรรยากาศรอบตัวพวกเขานิ่งสงบ เยือกเย็นทั้งที่ควรจะร้อนรนมากกว่า โดยเฉพาะชายหนุ่มตัวสูงใหญ่เรือนผมสีม่วงมัดหนังยาวรวบตึงเอาไว้ไม่ให้ผมระเกะระกะหน้า
“คางามิคุง”
“อา…เข้าใจแล้ว..พวกนั้นน่ากลัวขึ้นจริงๆ”
สองแสงเงามองตาอย่างเข้าใจ เวลาต่อจากนี้ในควอเตอร์ที่ 4 คือการตัดสินว่าใครจะแพ้ใครจะชนะ แม้ว่าพวกเขาจะมีแต้มที่นำกว่าก็ยังประมาทไม่ได้เป็นอันขาด
แม้เวลาเพียงเสี้ยววินาทีก็มีการพลิกผันได้เสมอ
บอลลอยสูงจากมือกรรมการ คิโยชิตบแย่งบอลได้อีกครั้ง เขาเตรียมโยนส่งให้อิซึกิผู้เป็น point guard ทำหน้าที่ส่งลูกให้เพื่อนในทีม
ผัวะ!!!!
บอลในมือถูกตัดแย่งโดยร่างสูงโย่ง มุราซากิบาระ อัตสึชิ วิ่งบุกเข้าไปด้วยความเร็วพร้อมๆกับฮิมุโระ เซย์รินหน้าตาตื่นไม่คิดว่าคราวนี้คนที่อยู่ตำแหน่ง center จะเปลี่ยนบทบาทมาเป็นฝ่ายรุกเสียเอง
“สกัดไว้!!!” ฮิวงะสัมผัสได้ถึงรังสีอันตรายแผ่กระจายจากตัวคนผมสีม่วง คุโรโกะกับคางามิจำต้องเข้ามาช่วยประกบกั้นคนตัวใหญ่ หากแต่มุราซากิบาระนั้นตัวใหญ่กว่าทรงพลังกว่า และสมาธิที่นิ่งสนิทหาใช่ความโมโหจนลืมหน้าหลัง มือแกร่งปาบอลโยนส่งไปทางปีกขวา ที่นั้นฮิมุโระตั้งท่ารอชู้ตสามแต้มต่ออยู่แล้ว!!!
ฝุ่บ!!!!
“68 : 73”
“ลูกนั้นเป็นของฉัน!!!” คางามิไม่รีรอเขารีบวิ่งพุ่งกลับไปหมายจะรีบาวน์ลูกคืนกลับมา มุราซากิบาระเข้ากระโดดประกบตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ชิงแย่งลูกแล้วกระแทกดังก์ลงอย่างแรง ส่งผลให้เอซเซย์รินเสียสูญล้มลงไปนั่งก้นกระแทกพื้น ฮิวงะรีบเข้ามารับลูกที่หล่นจากห่วง วิ่งเดาะเลี้ยงนำส่งให้อิซึกิรับช่วงต่อ หนุ่มหน้าตี๋กวาดตามองตำแหน่งผู้ส่งพบว่าทุกคนโดนสกัดกั้นหมดแล้ว!!
“บล็อกทุกทางแบบนี้เลยงั้นเหรอ!?” เจ้าของเนตรอีเกิ้ลอายส์ร้องเสียงหลง จังหวะนั้นในขอบเขตสายตาครึ่งสนามเขาเห็นเงาร่างเล็กบางเรือนรางวิ่งเข้ามาผ่านหลังผู้เล่นโยเซนเบอร์ 5 จึงตัดสินใจส่งบอลให้เงาลวงตารับช่วงต่อทันที!!
“ไม่ยอมให้ไปหรอกคุโรจิน!!!!” มุราซากิบาระ อัตสึชิ วิ่งสาวเท้าเข้ามาใกล้อีกไม่กี่ก้าวก็จะประชิดหลังบอบบาง พลัน!คิโยชิโผล่เข้ามาสกรีนชนขวางทางไม่ยอมให้ไปง่ายๆ
“ฉันก็ไม่ยอมให้นายไปถึงตัวเจ้าหญิงง่ายๆเหมือนกันเจ้ายักษ์”
“คิโยชิ!!!!”
แฟมธ่อมชู้ตทำสามแต้มไปได้อีกครั้ง เธอรีบวิ่งไปให้ทันก่อนลูกจะตกพื้นพาสบอลส่งหลบรัศมีเอื้อมเข้ามาแย่งโดนผู้เล่นโยเซนเบอร์ 12 ฮิมุโระตาโตเหลียวมองลูกบาสที่ลอยสูงเสียดฟ้า เงาดำบินผ่านเข้ามาเอื้อมสุดแขนจับบอลแล้วอัลเลย์อุ๊ปกระแทกลงห่วงต่อเนื่องทันที
แรงกระโดดนี่มันอะไรกัน!!!? ชายผมปิดตาซ้ายเบิกตาโพล่งตกตะลึงในความสามารถของน้องชายร่วมสาบาน
“พอกันที…พวกนายจะน่าหงุดหงิดเกินไปแล้วนะ” มุราซากิบาระ อัตสึชิ ก้มหน้าลงต่ำ กัดฟันกรอดเสียงฟังลูกบาสกระแทกเข้าห่วงซ้ำแล้วซ้ำเล่าของโดยผู้เล่นในฝั่งเซย์ริน แต้มคะแนนโยเซนไล่ตามเท่าไหร่ เซย์รินก็ตีกลับมานำมากเท่านั้น
ไม่อยาก ‘แพ้’
คุโรโกะ เท็ตสึยะ วิ่งเข้าไปตัดบอลแย่งจากมือเอซโยเซน แล้วใช้อิกไนต์พาสส่งให้คางามิ ไทกะที่สิ่งมารอรับใต้แป้นบาสฝั่งตรงข้ามรุกทำแต้มต่อเนื่องไม่คิดหยุดหย่อน ถ้าทำแต้มนี้ได้เซย์รินจะทิ้งห่าง 15 แต้ม โอกาสแบบนี้ไม่มีอีกแล้ว!!
หมับ!!!!
บอลถูกตบแย่งไปอย่างรวดเร็วเข้าสู่มือใหญ่ คางามิ ไทกะ เบรกแทบไม่ทันสไลด์ลื่นดีที่เอาตั้งท่าเบรกไว้จึงไม่ล้มไปนอนกับพื้น เนตรสีเพลิงเบิกโพล่งมองร่างสูงใหญ่ที่จับลูกบาสเอาไว้แน่น กระแทกเดาะซ้ำๆไปมา ความกดดันแผ่กระจายออกมาจากตัวจนคนในสนามขนลุกเกรียวกราว คุโรโกะเบิกตาโพล่งอึ้งจนเผลออ้าปากค้างจ้องมองเจ้าของเรือนผมสีม่วงมัดรวบค่อยๆเงยหน้า
เปรี๊ยะ!!!!
กระแสสายฟ้าแล่บพุ่งออกจากดวงเนตรอเมทิสต์คู่คม มุราซากิบาระ อัตสึชิ ขยับเท้าใหญ่ก้าวไปทีละก้าว..สองก้าว..ช้าๆ และทุกครั้งเขตป้องกันก็ยิ่งแผ่กระจายมากตาม
“มุราซากิบาระเข้าโซน!!” ฮิมุโระอุทาน
“ป้องกัน!!!!” ตำแหน่ง center เซย์รินตั้งสติมาได้ทัน ทุกคนในเซย์รินรีบตั้งการ์ดรองรับการบุกของชายเรือนผมสีม่วง ร่างสูงใหญ่ถีบตัววิ่งพุ่งเข้าไปอย่างรวดเร็วเลี้ยงลูกไปอย่างคล่องแคล่ว ว่องไวจนไม่น่าเชื่อ คางามิ ไทกะ พยายามวิ่งไล่ตามอีกฝ่ายให้ทันซึ่งเป็นเรื่องยากยิ่งสำหรับตัวเขาที่ยังไม่สามารถเปิดประตูโซนได้ในเวลานี้
“บ้าชิบ!!!” เสียงทุ้มสบถคำราม มองรุ่นพี่ทั้งสามร่วมทีมไม่สามารถทำอะไรได้ พละกำลังมหาศาลของอีกฝ่ายเพิ่มจนไม่ว่าใครก็ขวางไม่อยู่เป็นอันต้องล้มทุกรายไป คิโยชิเตรียมกระโดดปัดลูกจากอีกฝ่ายทำหน้าที่ปกป้องวงในเซย์รินเอาไว้
“ไม่ให้ทำแต้มได้หรอกมุราซากิบาระ”
“หนวกหู!!!” มือแกร่งกระโดดหมุนตัวแรงจนเกิดกระแสลมพายุหมุน ไม่ว่าใครที่อยู่ในขอบเขตบริเวณนั้นจำต้องกระเด็นถอย คิโยชิไม่อาจต้านทานได้เป็นฝ่ายล้มลงไปเสียก่อนในขณะที่ร่างสูงยังกระโดดตัวลอยกระแทกบาสดังก์ลงอย่างแรง!!
ปึง!!!!!ปึง!!!!!ปึง!!!!!!
“กระแสเกมส์เปลี่ยนไปแล้ว เหลือเวลาอีก 10 วินาที เซย์รินตอนนี้ต้องคิดหนักๆแล้วล่ะ” ทาคาโอะกลอกตาไปยังป้ายคะแนน ถึงแม้เซย์รินจะนำอยู่ที่ 72 : 74 สถานการณ์ในช่วงหลังๆ เหล่าทีมชุดดำแถบแดงขาวทำแต้มไปได้เพียงหนึ่งแต้ม ที่เหลือเป็นของโยเซนหมดทั้งหมดนี้เกิดจากลูกชู้ตของฮิมุโระกระสานกับท่าดังก์ทำลายล้างของมุราซากิบาระ
ป้อมปราการยักษากลายออกอาละวาดทำลายล้างกับจอมเวทย์เหมันต์ที่ร่ายมนต์สนับสนุน
โยเซนไม่ใช่ปราการแห่งทวนเทพอยู่นิ่งๆอีกแล้ว..แต่กำลังเคลื่อนที่ตั้งหาก!!!
“โยเซนตีตื้นมาขนาดนี้ บุกก็ไม่ได้..ที่ทำได้ต้องสามแต้มเท่านั้น” ฮิวงะมองภาพรวมในอีก 10 วินาทีสุดท้าย บอลในมือเขาต้องทำชู้ตสามแต้มให้ได้เป็นหนทางที่ดีที่สุดที่จะโจมตีกำลังใจฝ่ายที่กำลังเป็นรอง ร่างสูงสวมแว่นตั้งท่าแล้วชู้ตลูกลอยขึ้นฟ้าไปอย่างรวดเร็วก่อนที่กัปตันโยเซนจะเข้าประชิดตัวแย่งบอลไป
ผัวะ!!!!
ฮิมุโระ ทัตสึยะ ตบรีบาวน์ลูกได้ก่อน เขารีบเลี้ยงเดาะบอลพุ่งไปข้างหน้า คางามิใช่ว่าจะยอมปล่อยพี่ชายไปง่ายๆ เจ้าตัวสับขาไล่กวดทันแล้วเข้าขวางทางอีกฝ่าย “ฉันไม่ยอมให้นายชู้ตแน่ทัตสึยะ”
“ใครว่าฉันจะชู้ตกัน ไทกะ” คำพูดเดิมซ้ำเหมือนที่เจ้าของเรือนผมสีแดงอมน้ำตาลไหม้ฟูเคยใช้ คนหนุ่มผมปิดตาคลี่ยิ้มอ่อนโยนให้คนตรงหน้า ท่าที่จะตั้งชู้ตกลับกลายเป็นหย่อนส่งบอลจากด้านหลังเข้าสู่มือหนุ่มผมสีม่วงมัดรวบ
“แย่ล่ะ!!!มุราซากิบาระได้ลูก!!!” คนคิ้วสองแฉกร้องเสียงหลง วินาทีนี้เขาไล่ตามอีกฝ่ายไม่ทันแล้ว
ตึง!!!ตึง!!!ตึง!!!ตึง!!!
ลูกบาสเก็ตบอลสีส้มกระแทกพื้นดังเป็นจังหวะ ขายาวขยับวิ่งก้าวไปเบื้องหน้า..วิ่งหลบเหล่าเซย์รินคนแล้วคนเล่าได้หมด เนตรเฉื่อยชามาตลอดจดจ้องแป้นบาสสูงตระหง่าที่เขานึกชังมาตลอดชีวิต ทั้งที่ไม่ได้ชื่นชอบเลยซักนิดกลับกลายเป็นสิ่งที่ทำได้ถนัดที่สุดโดยไม่ต้องพยายาม
ยิ่งเห็นคนพยายามเพื่อบาสก็ได้แต่ตั้งคำถามว่า ‘ทำไม’
ใครๆต่างก็รู้กันอยู่ว่าบาสเก็ตบอลเป็นกีฬาเหมาะกับคนตัวสูง..และก็เป็นเช่นนั้นเสมอมา..เขาเกิดมาสูงกว่าใคร แขนขายาวกว่าใคร พระเจ้าสรรสร้างให้เขาเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ ถึงอย่างนั้นก็ไม่เคยชื่นชอบหรือนึกสนุกกับมันซักนิด
เพราะว่าง่ายดายเกินไปก็เลยพาลเบื่อ
แต่ว่า…ก็ไม่อยากให้ใครมาล้มตัวเองเช่นกัน ในเมื่อ…พระเจ้าได้ประทานความสามารถนี้มาให้แล้ว
รองเท้าบาสเบรกอยู่วงนอกที่ว่างเปล่า ไม่มีใครกวดไล่เขาทันเพียงตอนนี้แค่กระโดดชู้ตลูกเท่านั้นสามแต้ม โยเซนจะชนะ!
แปล๊บ!!!
“!!!!!!” ขาทั้งสองข้างกลับขยับไม่ออก ความเจ็บแปล๊บแล่นริ้วจากน่องไปถึงหัวเข่า มุราซากิบาระหน้าตาตื่นตกใจไม่คิดว่าการใช้โซนมากมายจะส่งผลให้ร่างกายล้าเร็วขนาดนี้!!เขาภาวนาขอให้โยเซนใครซักคนวิ่งมาถึงตัวก่อน ปลายหางตาเหลือบเห็นร่างสูงกัปตันทีมกำลังรุดหน้าเข้ามา จึงเตรียมเอี่ยวตัวส่งลูกให้
“ไม่ให้ส่งหรอกค่ะ!!!”
หญิงสาวปลอมเป็นชายมิสไดเรกชั่นเข้ามาถึงตัวกระโดดเอื้อมสุดแขนตบลูกออกจากมือแกร่งเต็มแรงจนกระเด็นกระดอนลงสู่พื้น ในช่วงเสี้ยววินาทีเดียวเท่านั้น…สัญญาณนกหวีดดังขึ้นบอกให้รู้ว่าจบการแข่งขันแล้ว
กำแพงถูกทลายลง ป้อมปราการแตกหักเป็นเสี่ยงๆ
จอมเวทย์เหมันต์หมดซึ่งพลัง…ด้วยการประสานพลังรวมกันระหว่างอัศวินแห่งแสงกับเด็กหญิงเงาลวงตา
ร่างสูงเรือนผมสีม่วงหายใจหอบโยน เขาเท้าแขนลงกับขาทั้งสองข้างที่ล้าจนไม่สามารถขยับไปไหนได้พลางหายใจถี่หอบ ใบหน้าโชกเหงื่อกาฬเงยหน้าขึ้นสบตาหญิงสาวร่างเล็กที่โผล่มาตัดลูกชู้ตสุดท้ายของเขา ใบหน้าหวานไร้อารมณ์ชุ่มโชกเหงื่อไม่แพ้กันจนปอยผมสีฟ้าอ่อนที่ล้อมใบหน้าชื้นเหงื่อไปด้วย ขาเรียวเล็กก้าวเข้ามาหาพร้อมกับยื่นมือตรงมา
“มุราซากิบาระคุง…ยังคิดว่าบาสน่าเบื่ออยู่ไหมคะ”
“ยังไงบาสก็น่าเบื่ออยู่ดี” คิ้วเรียวขมวดมุ่นไม่สบอารมณ์ ปลายนิ้วเกี่ยวหนังยางดึงออกโยนทิ้งกับพื้นปล่อยผมสีม่วงออกมาคลอเคลียลำคอหนา แล้วหันหลังเดินลากขาออกไปจากสนาม เมินการจับมือกับอดีตเพื่อนร่วมทีมสมัย ม.ต้น
“ผมสนุกมากนะครับที่ได้แข่งกับมุราซากิบาระคุง!!”
คุโรโกะตะโกนบอกไล่หลังอีกฝ่ายด้วยถ้อยคำแบบผู้ชาย คนหนุ่มตัวสูงโย่งชะงักขาที่ก้าวลง..ยืนนิ่งไม่พูดไม่จา ไม่แม้แต่เหลียวมามองผู้หญิงที่ปลอมเป็นชายเบื้องหลัง
“…..เพราะแบบนี้ไง ถึงได้น่าขย้ำในตาย” เสียงทุ้มทิ้งท้ายเจือหงุดหงิดใส่ หากแต่เหล่าโยเซนหันมาเห็นก็ได้แต่ยิ้มเอ็นดู พวกเขาเข้ามารวบโอบกอดร่างสูงใหญ่ที่เริ่มตัวสั่นจนไหล่ไหว ฮิมุโระส่ายหน้าช้าๆเอื้อมมือไปวางผ้าขนหนูบนศีรษะคนตัวสูงกว่าตามด้วยตบหลังปลอบโยน คนที่พยายามกลั้นอารมณ์เริ่มส่งเสียงสะอื้นฟุดฟิดอู้อี้..ร้องห่มร้องไห้เจ็บใจเหมือนเด็กดื้อที่พยายามข่มน้ำตาไม่ให้ไหลแต่สุดท้ายก็ปริแตกออกมาอาบแก้ม
“หมอนั่นเด็กจริงๆแหะ” คิโยชิเดินเข้ามายืนอยู่ข้างๆ เด็กสาวผมฟ้าตัดสั้นตัวผอมบาง ทอดสายตามองแผ่นหลังกว้างสูงใหญ่เดินทิ้งช่วงห่างออกไปไกลจนลับสายตา
“ค่ะ…เป็นเด็กดื้อเอาแต่ใจ บางทีฉันก็อดเป็นห่วงไม่ได้จนรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นแม่เขาในบางครั้ง” คุโรโกะเปรียบเปรยด้วยรอยยิ้มที่ยกขึ้นเพียงเล็กน้อย ดวงหน้าหวานหลับตาลงก่อนจะลืมขึ้นช้าๆ เงยหน้าขึ้นมองแสตนเชียร์เบื้องหน้า..สบตาเขากับเนตรสองสีไม่เข้าคู่ที่จ้องมองอยู่ตลอดเวลาตั้งแต่เริ่มแข่งจนจบเกมส์
‘จักรพรรดิ’ ประทับบนบังลังค์แห่งชัยชนะ
เหล่าตัวจริงมาร่วมยืนสมทบกับเงาลวงตา พวกเขาเงยหน้าไปมองทิศทางเดียวกับหญิงสาว..มองอีกทีมที่เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปก่อนซึ่งมานั่งรับชมการแข่งขันในวันนี้ จากนี้ไปคือการต่อสู้ครั้งสุดท้ายที่เดิมพันด้วยชัยชนะเพียงหนึ่งกับทีมโรงเรียนที่แข็งแกร่งที่สุดในระดับมัธยมปลาย
เกมส์กระดานสุดท้าย ‘ราคุซัน VS เซย์ริน’
จักรพรรดิผู้โหดเหี้ยมหรือเด็กหญิงหัวใจแกร่ง..ใครจะเป็นฝ่ายชนะ!!
อาคาชิ เซย์จูโร่ กระตุกยิ้มเย็น..รอยยิ้มที่ไม่อาจคาดเดาความคิดก่อนจะเป็นฝ่ายลุกขึ้นยืนก่อนใครตามด้วยลูกทีมอีกสี่คนลุกตาม เดินออกไปจากอุโมงค์ทางเดินสำหรับเข้าสู่โพเดี่ยมนั่งชมการแข่งขัน ฝีเท้าย่างก้าวดังกึกก้อง หนักแน่น ตลอดทางเดินในเงามืดเว้นเพียงเนตรสีแดงกับสีทองอำพันยังคงเรืองรองเบิกกว้างวิปลาศน่าพรึงพรัน
“แล้วเราจะได้เห็นดีกัน เท็ตสึยะ”
.
.
.
สัมภาระที่พกพามาในสนามแข่งเก็บใส่ลงในกระเป๋านักกีฬาเป็นที่เรียบร้อย คางามิยกสายสะพานขึ้นพาดบ่าเดินออกไปร่วมสมทบกับเพื่อนร่วมทีมที่รออยู่หน้าห้องล็อกเกอร์ วินาทีนี้นักข่าวพุ่งเป้าระดมถ่ายรูปทีมเซย์รินตลอดทางเดินไม่หยุดหย่อน แถมยังมีพุ่งเข้ามาสัมภาษณ์เรียงตัวถามถึงความรู้สึกที่ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศกันยกใหญ่ บางที่เป็นผู้สื่อข่าวจากนิตยสารกีฬามาขอสัมภาษณ์ความชอบไม่ชอบส่วนตัว ทัศนคติ อาหาร และอื่นๆอีกมากมาย ขนาดเรื่องมีแฟนกันหรือยังก็ยังโดนถาม กว่าพวกเขาจะตอบคำถามและปลีกตัวหนีออกมาได้ก็หืดขึ้นคอเอาการ
“ไม่เคยอะไรแบบนี้มาก่อนเลย ตื่นเต้นชะมัด” ฮิวงะลูบต้นแขนไปมา ประหม่าไมค์และกล้องจนหน้าเหงื่อโชกหน้าไปหมด ไม่ต่างอะไรจากคนอื่นๆ สำหรับคนที่รับมือได้ดีกว่าใครไม่พ้นโค้ชสาวริโกะกับคิโยชิที่เอาแต่ยิ้มร่าเริงตลอดเวลา เสียงเจี้ยวจ้าวร่าเริงทุกคนดังไปตลอดเส้นทางเบื้องหน้าโดยมีคางามิเดินเงียบๆตามอยู่ด้านหลัง กระทั้งเสียงเรียกจากเด็กสาวปลอมเป็นชายทำให้เขาดึงสติกลับมา
“คางามิคุง”
“ห่ะ!!?มีอะไรเหรอคุโรโกะ?”
หน้าคมคายเลิกคิ้วสองแฉกขึ้นสูง ก่อนจะถึงบางอ้อเมื่อเห็นแหวนเงินวงเกลี้ยงในมือขาวเล็กๆใช้ส่งพาสลูกในสนามเป็นประจำ เขาอ้าปากเหวอ มองแหวนในมือด้วยแววตาครุ่นสงสัยก่อนจะถูกเฉลยด้วยคำตอบจากปากอิ่มเล็กบาง
“ฉันรู้ว่าคางามิคุงไม่อยากเลิกเป็นพี่น้องกับฮิมุโระคุงและใจจริงก็ไม่อยากทิ้งแหวนด้วย ก็เลยเก็บเอาไว้”
คนหนุ่มตัวสูงมองแหวนอย่างชั่งใจอยู่นาน ก่อนจะตัดสินใจรับแหวนจากมืออีกฝ่ายกลับมาสวมใส่ ปลายนิ้วเกลี่ยสัมผัสแหวนไปมา..ความตื้นตันเอ่อล้นในอกซ้ายอย่างไม่น่าเชื่อ รู้สึกโชคดีที่ไม่ได้ทิ้งของสำคัญชิ้นนี้ไป
ทัตสึยะ…พี่ชาย…..เราจะเหมือนเดิมได้ไหมในซักวันนึง
เหล่าเซย์รินออกจากสนามกีฬาจัดการแข่งขันวินเทอร์คัพ เวลานี้ท้องฟ้าแปรเปลี่ยนเป็นสีครามเข้มยามเย็น เสียงร้องหมู่นกกาดังเจื้อยแจ้วโผบินข้ามผ่านฝากฟ้ากลับคืนสู่รัง เช่นเดียวกับพวกเขากำลังยืนรอรถเมล์อยู่ที่ป้ายกลับสู่บ้านพักผ่อนเพื่อเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการแข่งขันครั้งสุดท้ายในฤดูหนาว
“ไหนๆก็แล้ว ฉันมีเรื่องอยากคุยซักหน่อย” จู่ๆ โค้ชสาวริโกะเปิดเรื่องทั้งสีหน้าจริงจังเสียจนต่างคนต่างหันมามองด้วยสีหน้าฉงนสนเท่ห์ นัยน์ตากลมโตสีน้ำตาลจดจ้องร่างเล็กจืดจางในชุดฟอร์มนักกีฬาเซย์ริน “ฉันอยากให้คุโรโกะเล่าเรื่องสมัยเทย์โควและเรื่องของ ‘อาคาชิ เซย์จูโร่’ ให้ทุกคนในที่นี้ฟัง..ฉันคิดว่ามันคงถึงเวลาแล้ว”
คุโรโกะสบตาโค้ชสาวอย่างเข้าใจเธอกระชับสายกระเป๋าสะพายแน่นด้วยความลำบากใจแล้วคลายออกช้าๆ พยักหน้าเป็นเชิงตอบรับยินดีที่จะเล่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นทั้งหมดในอดีต…อดีตที่เคยเล่าให้ริโกะฟังไปแล้วคนเดียว เวลานี้จำต้องยอมเปิดใจเล่าให้ทุกๆคนฟัง
บาปอันแสนเศร้าที่กระทำลงไปโดยไม่รู้ตัว..บาปของรุ่นปาฏิหาร์ย..บาปของเธอ..
เรื่องราวทั้งหมดตั้งแต่อดีตวัยเพียง 5 ขวบจนถึงบาปรุนแรงที่สุดที่ได้กระทำของเหล่ารุ่นปาฏิหาร์ยที่เธอกลายเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดไปด้วย นั่นคือการดับลมหายใจที่รักบาสยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดของเพื่อนสนิทคนสำคัญอย่าง ‘โอกิวาระ ชิเงฮิโระ’ สร้างแผลร้าวลึกจนทุกวันนี้อีกฝ่ายไม่ยอมที่จะกลับมาแตะบาสเก็ตบอลอีก ทุกสิ่งทุกอย่าง..ออกมาจากปากคุโรโกะ เท็ตสึยะ เป็นระยะเวลาชั่วโมงกว่าที่บ้านของเธอ
การสารภาพบาปที่ไม่อาจลบเลือน…
ท้องฟ้ายามราตรีมาเยือนอีกครั้งทุกคนเริ่มแยกย้ายออกจากบ้านเด็กสาวปลอมเป็นชาย แยกย้ายกันไปคนละทิศละทางกลับบ้านช่องของตัวเอง เหลือเพียงฮิวงะ ริโกะ และคางามิ เดินทอดน่องไปตามทางเท้าริมถนนที่มีแสงไฟจากโคมไฟริมส่องสว่างไสวในความมืดมิด
“คางามิ” กัปตันทีมเรียกชายผมสีแดงอมน้ำตาลไหม้ชีฟู คนหนุ่มตัวสูงสะดุ้งโหยงเหลียวหันกลับมามอง
“ถึงบ้านนายแล้ว” ฮิวงะชี้นิ้วไปยังตึกคอนโดสูง คางามิตาโตตกใจรีบเกาหัวแก้เก้อแล้วผงกหัวบอกลารุ่นพี่ทั้งสอง ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องโถงชั้นล่างสุดที่มีโอเปอร์เรเตอร์ทำหน้าที่บริการรวมถึงเฝ้ายามให้ผู้อาศัยในคอนโดได้เข้ามาติดต่อ ทั้งสองมองส่งรุ่นน้องจนอีกฝ่ายหายเข้าไปในคอนโดสูงสิบชั้น แล้วหันมามองหน้ากันและกันพร้อมถอนหายใจเฮือกใหญ่
“เธอรู้มาซักพักแล้วสินะริโกะ ถึงว่าทำไมหลังๆไม่ค่อยเชียร์คางามิมันเลย” ร่างสูงสวมแว่นทรงรีถาม
“น่าสงสารเจ้าบ้ากามิ นี่ก็เป็นรักแรกซะด้วย” ไอดะ ริโกะพยักหน้าตอบและถอนหายใจอีกระลอกก่อนจะแหงนหน้ามองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวระยิบระยับจับตา
“ให้คุโรโกะเล่าแบบนี้ วันแข่งรอบชิงคางามิจะไม่มีปัญหากับอาคาชิแย่เหรอ” ฮิวงะ จุนเปย์ คิดวิตกกังวลถึงอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกเร็ววัน เห็นว่าเจอหน้าครั้งแรกก็เกือบโดนกรรไกรแทง..ยิ่งมารู้ประวัติสิ่งที่อาคาชิได้ทำกับคุโรโกะเอาไว้ คางามิที่รู้สึกดีๆกับคุโรโกะคงจะไม่นิ่งสงบใจเฉยๆแน่
จักรพรรดิ..เด็กหญิง..อัศวินแห่งแสง.. สองบุรุษหนึ่งอิสตรี
รอบชิงชนะเลิศไม่ใช่แค่บาสเก็ตบอล กลายสงครามรักไปในตัว
“นั่นแหละคือสิ่งที่ฉันตั้งใจ” ริโกะตอบทั้งสีหน้าเรียบ สบตาสีดำหลังเลนส์แว่นทรงกลมแล้วพูดต่อ “ฉันคิดว่านี่เป็นเรื่องที่แฟร์ที่สุดสำหรับคางามิ ฉันไม่อยากให้เจ้านั่นแข่งไปทั้งๆที่ไม่รู้อะไรเลย..สิ่งที่ทำอาจจะดูใจร้ายแต่ก็เป็นบททดสอบที่จะทำให้คางามิแข็งแกร่งขึ้น”
“แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นดาบสองคมต่อจิตใจคางามินะ” หนุ่มผมสีดำสวมแว่นแย้งการกระทำที่เขาเห็นด้วยเพียงแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น..ดวงตาสีเข้มลอบมองดวงหน้าหวานล้อมผมสีน้ำตาลซอยสั้น สีหน้าของเธอเปี่ยมไปด้วยความลำบากใจไม่ต่างจากเขา
“อันนั้นก็ขึ้นกับตัวคางามิ ก็ความรักไม่เคยมีเหตุผลเลยนี่นา”
TBC
+++++++++++++++++++++++++++++++++
ไล่ตบเกรียนมานานในที่สุดก็เหลือเกรียนตัวพ่อ
บอสใหญ่คนเดียวแล้ว 555 แมตท์สุดท้ายราคุซันซักที ท่านจะไม่บทน้อยต้อยติ่งแล้ว
มาจัดหนักจัดเต็มเอาตอนใกล้จบฟิค
นับถอยหลังจบฟิค 5 ตอนค่ะ ตอนแรกกะจบตอน 40 ปรากฏเขียนไปมาน่าจะจบลงตอน 39 มากกว่า
ตอนนี้มีเหตุการณ์ไปโยงกับทวิตเตอร์ที่เราโรลท่านกับน้องด้วยนะ ถ้าใครตามทวิตจะเก็ตเลย ฮา
ไปก่อนนะคะ บายจ้า
ขอบคุณเจ้าค่ะ เจ๊บลัด ^_^
งวดนี้มาเม้นต์สั้นๆ. !
อีเจี๊ยบ เลียบทางด่วน
เชียร์ราคุซัน !
เพราะผัวเค้าคืออาคาชิ เซย์จูโร่ !
เซย์รินแค่โรงเรียนบ้านนอก !
เสร็จแล้วก็จับ คุโรโกะทำเมีย ! ส่วนคากามิ คิโยชิ ยกให้เรโอะกินตับคู่เลย ^_^
เอาเจี๊ยบมาเชียร์วอดวายทั้งทีมอ่ะ 55555555
เป็นแมทที่ลากเลือดใช้ได้อ่ะนะ ศึกชิงรักหักสวาทของสองพี่น้อง กร๊ากๆๆ
ตกลงก็แพ้เขาจนได้นะฮิมุโระคุง แหมๆๆๆ ตกลงสุดท้ายน้องกะไม่ยอมสร้อย
ที่ห้อยแหวนนั้นอ่านะ (ในออริกะไม่ได้ทิ้ง) ก็อย่างว่าของหมั้นของทั้งคู่ไม่ใช่
หรอฮ่าๆ กะว่าไปนั้น ต้องให้เวลาฮิมุโระคุงทำใจก่อนมั้ง กร๊ากๆ แต่รู้สึกว่าอเล็ก
จะลำเอียงนิดๆๆนะ แอบเชียร์คางามิคุงมากกว่าหน่อยๆรึเปล่าเนี่ย สุดท้ายเด็ก
โข่ง อย่างมุราซากิบาระคุง ก็เข้าโซนได้ในที่สุดอ่ะนะ ก็อย่างว่าคนที่เกิดมาพร้อม
กับพรสววรค์ย่อมไม่มีทางเข้าใจพวกที่ต้องใช้พรแสวงหรอกนั้น แต่แหมๆๆพี่เขียว
ไม่ค่อยจะอวยน้องเลยนะ คริ คริ ปากไม่ตรงใจตามนั้น พี่ชายที่แสนดีของน้องจริงๆ
ห่วงแบบซึนๆ หึหึ และแล้วน้องก็มาถึงท่านซะที สุดท้ายสิ่งที่น้องทำมาทั้งหมด
จะช่วยได้ไหมต้องมาลุ้นกันสินะ เกมส์กระดานสุดท้าย ‘ราคุซัน VS เซย์ริน’ เฮ้อ!!
ถึงจะเสียดายคนหล่อไปนิด แต่ขอบอกว่ายังไงก็อยู่ทีมน้อง เชียร์น้องให้ตบท่าน
กระจุ้ยไปเลย (อันนี้บวกความหมั่นไส้ส่วนตัวนิดๆอ่านะ ฮ่า) แต่คิดว่างานนี้น้องต้อง
เทหมดหน้าตัก ทุ่มสุดตัวแล้วอ่ะ รอลุ้นกันไปอีก 5 ตอน (มาช่วยเคาดาวแหละจ้า
ว่าแต่ไหนตอนแรกตั้งไว้ว่า 40 ชิส์ บลัดซังใจร้าย ทำหายไปไหน 1 ตอนเนี่ย ฮ่าๆๆ)
ช่ายยย ลากเลือดคนเขียนด้วย เวลานี้ยังไม่พร้อมที่จะคุยกัน ยังไงฮิมุโระก็แพ้ต้องมีเวลารักษาใจบ้าง
อเล็กซ์แอบลำเอียงนิดนึงจริงๆค่ะ เธอรัก2คนเหมือนลูกนะ รักเท่ากันแต่เทไปทางคางามิหน่อยเพราะเป็นน้องเลยโอ๋นิดๆ มุคคุงเกิดมาพร้อมทุกอย่างก
จากนี้ไปสิ่งที่น้องฝ่าฝันมานานใกล้ถึงบทสรุปแล้ว น้องจะตบท่านหรือโดนท่านตอกกลับต้องลุ้น
ตอนแรกกะ 40 น่ะ พอดีตัดแมตท์เขียวแดงออกเลยลดมา 39 แทน
อร้ายยยแอบจิ้นม่วงดำเบาๆ—หลบกรรไกร ((ไททันน้อยน่ารักอ่ะ))
คนดื้อดึงที่ท่านพูดถึงนี่…. ฟฟฟฟ เหมือนจะแฝงความหมายว่างอนน้องที่ไม่ยอมรับแนวทางของท่าน 55 ((ท่านต้องง้อน้องนะไม่ใช่ให้น้องมาง้อ))
ต่อจากตอนนี้และตอนต่อไปศึกชิงนางสินะคะ =w=; อืม…..อยากจะเชียร์พี่ไฟนะเพราะยังไงๆน้องก็รักท่านอยากจะเอาใจช่วยแต่โทษค่ะ 555 เราลงหลักปักฐานแดงดำไปแล้วววว
เพราะอย่างงั้นช่วยทนทุกข์ทรมาณต่อไปเถอะนะ 5555
#ไม่อยากจะบอกว่าตอนหนูดู KNB ตอนเซย์รินโดนท่านถล่มนี้โครตจะสะใจค่ะ 5555
##นอกเรื่องอีกอย่างตอนแรกคิดว่าโอเรชิจะเป็นเคะให้โบคุชิแต่หลังจากดู KNB ตอนล่าสุด….แม่มมมโห้ววววโอเรชิโครตเมะ!!!!!เมะมากเมะจนทำเอาความเมะที่โบคุก่อไว้เกือบครึ่งซีซั่นหายหมดเหลือเพียงความเคะซึน 55555
ไอ้ที่ท่านพูดว่าเราจะเห็นดีกันนี่..เราแอบคิดไปไกลมากกกกกก ((มโนฉาก SM+NC))
ใกล้แมตท์ราคุซันแล้ว ;w; โอเรชิจะกลับมาประหนึ่งอสูรร้ายที่เปลื่ยนร่างเป็นพระเอกขี่ม้าขาว
บางทีหนูแอบสงสารโบคุชิ..ถึงโบคุจะโหดร้ายแค่ไหนแต่ก็ยังรักน้องแต่น้องนี่ดิ….รักโอเรชิแต่ไม่ได้รักโบคุชิฮรือออเจ็บ ;;A;; แถมพอโอเรชิกลับมาโบคุจะหายไป
จะรอดูการฟาดฟันของน้องกับพี่มายุค่ะคงมันส์น่าดูถ้าพี่มายุรู้ว่าน้องเป็นหญิงนี่…จีบน้องเลยค่ะจีบเย้ยท่านเลยฮาาา
จะรออ่านนะคะสู้ๆ
ม่วงดำฟิลลิ่งนางฟ้ากับเด็กน้อยมาก555 น้องมองมุคคุงเหมือนลูกชาย คำว่าดื้อของท่านตามที่เม้นทุกอย่างเลย555 ใครจะง้อใครต้องรอลุ้นล่ะ
จากนี้ชิงนางกันและก็พิสูจน์เรื่องบาส พี่ไฟมาทีหลังอาจจะดังกว่าก็ได้นะ ฮา
โบคุเสียสูญทีนี่เคะแตกเลยอ่ะ โอเรชิเป็นเมะเจ้าเล่ห์ซะงั้น ท่านดูซึนจริงๆ ท่านบอกเห็นดีกันหมายถึงเรื่องบาสนะ 5555 ถ้าเรท NC ใส่ SM ล่ะ
โอเรชิจะมาไหม อันนี้ต้องลุ้น..โบคุดูน่าสงสารงั้นเหรอ อืมมมม รอดูกันดีกว่า อะไรๆก็เกิดขึ้นได้
พี่มายุปะทะน้องแน่ แต่จะปิ๊งไหมอันนี้ไม่รู้55
ตอนต่อไปน่าจะเร็วๆนี้ล่ะ