[Fic นักแสดง Sotus] Symbol the series
Pairing : สิงโต x คริส , พีรญา
Rate : NC-17, Drama
Story : blood_hana
*เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพียงการสมมุติขึ้น ไม่ใช่เรื่องจริง โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม
*ภาคต่อจาก non symbolic
++++++++++++++++++++++++++++++++++
Symbolic 11
“และแล้ว..เจ้าหญิงนิทราก็ตื่นขึ้นจากคำสาปด้วยจุมพิตจากเจ้าชาย”
นิทานเก่าแก่ฝั่งยุโรปเล่าขานผ่านเสียงใสกังวานไพเราะของหญิงสาวหน้าตาสะสวยผมสีดำขลับยาวถึงกลางหลังบนเตียง เธอปิดหนังสือนิทานลงกำลังจะปิดไฟ ทว่า..มือเล็กป้อมของเด็กน้อยบนเตียงกลับรั้งจับแขนเธอไว้
“ว่าไงเสือน้อย จะซนอะไรอีก พรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียนนะ” หญิงสาวเรียกลูกชายด้วยสรรพนามหยอกล้อ ลูกชายเพียงคนเดียวที่ถอดหน้าตามาไม่มีผิดเพี้ยน จะมีก็เพียงดวงตาที่เหมือนบิดาเท่านั้น
“ทำไมเจ้าชายถึงไปหาเจ้าหญิงคนนี้ล่ะครับ เจ้าหญิงมีตั้งเยอะแยะ” คำถามตามประสาเด็กขี้สงสัย มารดาฟังแล้วก็ได้แต่ส่งยิ้มอ่อนโยน ฝ่ามือเรียวลูบหัวปกคลุมเส้นผมสีดำขลับไปมาอย่างทะนุถนอม สบตาสีดำกลมโตใสแจ๋วที่ดูท่าทีจะไม่ยอมหลับง่ายๆหากไม่ไขข้อค้างคาใจ
“เพราะเจ้าชายรักเจ้าหญิงนิทรายังไงล่ะ”
“แล้วจะรู้ได้ไงครับว่ารักไปแล้ว แล้ว-”
คำถามอีกชุดหนึ่งตามมา และอาจจะมาอีก มารดาจึงจรดนิ้วปากปากน้อยๆ คนเป็นลูกจอมสงสัยจึงหยุดปากลง พยักหน้าอย่างเข้าใจว่าสำหรับค่ำคืนนี้ คงได้เพียงคำถามนี้คำถามสุดท้าย
“เมื่อใดที่ลูกพบคนที่ลูกอยากตื่นมาเห็นเป็นคนแรกในยามเช้า และคนสุดท้ายก่อนหลับ..คนนั้นแหละคือคนที่ลูกรัก”
“จำไว้นะ สิง”
.
.
.
เปลือกตาขยับเล็กน้อยนึกรำคาญใจกับไอร้อนส่องกระทบร่างจนทนไม่ไหว จำต้องลืมตาขึ้นอย่างเชื่องช้า..เหม่อมองสิ่งแรกของเช้าวันใหม่ตรงหน้า ใบหน้ากลมขาวผ่องล้อมด้วยเส้นผมสีดำ หลับสนิทไม่มีท่าทีว่าจะตื่น ลมหายใจเข้าและออกรดหน้าสม่ำเสมอผ่านมาจมูกโด่งรั้นและปากเรียวสีชมพูที่เผยอเล็กน้อย..
..คริส..
สิงโตมองคนที่นอนสลบเหมือดข้างกายบนเตียงเดี่ยวที่จำต้องเบียดเสียดเข้าใกล้เสียจนหน้าประชิด มอง..หน้าคนที่หลับพริ้มไม่ได้รู้เรื่องราวเลยว่ากำลังโดยพิจารณาใบหน้าจนแทบไม่เหลือพื้นที่ส่วนใดที่เล็ดรอดผ่านสายตาคมกริบ
หัวใจพองโต ไม่คิดละสายตาไปไหน
“หวา!!!! ลุงดำเข้ามาในห้องได้ไงอ่ะ!!! อาคริส!!! ลุงดำเข้าห้องฮะ!!!!!” ความเงียบสงบโดนทำลายลงด้วยเสียงใสแผดร้องดังสนั่นของเด็กชายผู้เป็นหลานเจ้าของห้องซึ่งนอนอยู่อีกเตียงทำเอาคริสสะดุ้งตกใจตื่น อาการของคนความดันต่ำปะทุขึ้น คริสยกมือขึ้นกุมหน้าผากโดยที่หลับตาหยี รู้สึกได้ยินเสียงวิ้งก้องหัว ปวดหัวจนมึนตึบไปหมด
แต่แล้วสัมผัสอบอุ่นเข้าเคล้นคลึงนวดศีรษะเบาๆ ทำเอาคนพึ่งตื่นรู้สึกผ่อนคลายลงทีละนิด..ทีละนิด
“เบาๆเคน อย่าปลุกอาคริสเสียงดัง เดี๋ยวอาคริสปวดหัว” เสียงทุ้มนุ่มปรามเด็กชายที่เด้งพรวดมายืนบนเตียงตั้งท่ามวยใส่คนที่นอนเอามือนวดหัวคนเป็นอาของเด็กชายดังกล่าวไปมา พอรู้ว่าตัวเองเผลอทำเรื่องไม่ควร เคนรีบยกมือปิดปากแน่น
“ขอโทษฮะ…แล้วลุงดำรู้ได้ไงอ่ะว่าอาคริสเป็นโรคความดันต่ำ?” คำถามทั้งตาใสแจ๋วด้วยเสียงเบาลงกว่าเดิม
“เพราะเราเป็น ‘พี่น้อง’ กัน”
“แล้ว-“
เคนอ้าปากจะถามต่อ ทว่า..ชายผิวสองสีกลับหยัดกายขึ้นมานั่งเผยผิวสีสองสีเปลือยท่อนบนเต็มไปด้วยกล้ามมัดกำยำดูดี หยิบแบงค์เงิน 500 บาทในกระเป๋าสตางค์หนังสีดำส่งมาให้ “เอาไปซื้อขนมกับลุงกายไป”
“หูยยยยยยยยยยยยยย” ตากลมโตวาววับเป็นประกายระยิบระยับ รีบคว้าเอาแบงค์ม่วงวิ่งออกไปจากห้องพักอย่างรวดเร็ว สิงโตลอบถอนหายใจมองประตูห้องปิดลงสนิท อย่างน้อยก็ไม่ต้องต่อคำยาวสาวคำยืดตอบคำถามที่เกินวัยกว่าเด็กอายุ 5-6 ขวบควรรับรู้ ก่อนเอนกายลงไปนอนนวดคลึงหัวชายผิวขาวสภาพเปลือยไม่ต่างกันใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน..บนเตียงเดียวกัน..
..ห้องพักกลับคืนสู่ความสงบอีกครา..
คริสปรือตามองคนที่เอาแต่นวดหัวไปมาอย่างอ่อนโยน อ่อนโยนจนน่าใจหาย นัยน์ตาเรียวสวยสบมองหน้าคมคายหล่อเหลาระยะประชิดที่ตั้งอกตั้งใจกับการเคล้นคลึงหัวของเขา ก่อนเลื่อนสายตากลับมาสบตา
“ทำไมมองแบบนั้น?”
“คริส..สงสัย..”
คำถามที่เปี่ยมไปด้วยความสับสนเห็นได้ชัดจากแววตาชายหนุ่มผิวขาวผ่อง สิงโตถอนหายใจเบาๆ โดยที่มือยังคงเคล้นนวดจนคริสเผลอครางสบายตัวออกมา ทำเอาลมหายใจชะงักกึกไปชั่วขณะกับเสียงทุ้มหวานแผ่วเบาจนต้องรีบตั้งสติกลับมาจดจ่อกับบทสนทนาแรกเริ่มในยามเช้าของวัน..
“สงสัยตอนนี้ช้าไปไหม”
ถามย้อนกลับไปให้ได้คิดแทนที่จะพูดออกมาตรงๆ หากแต่ชัดเจนเสียยิ่งกว่าจนกระดากอาย ดวงหน้าขาวผ่องย้อมสีแดงระเรื่อลุกลามไปถึงใบหู ปากอิ่มที่บวมเจ่ออันเป็นผลงานจากชายผิวสองสีเม้มแน่นเป็นแนวเส้น ลมหายใจถี่แรงจนรูจมูกบานเห็นได้ชัดและรีบก้มหน้าหลบตาคมกริบ ตาที่จ้องเหมือนจะทะลุทะลวงร่างเขาเสียจนต้องดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มร่างถึงคอ
“หายมึนยัง?” คำถามถึงอาการของคนปวดหัวจากการสะดุ้งตื่นฉับพลัน ได้รับคำตอบเป็นการพยักหน้า มือแกร่งจึงละถอยจากศีรษะทุยปกคลุมผมสีดำนุ่มนิ่ม
เบาหวิวในอก..น่าฉงน..
ดวงหน้าขาวผ่องค่อยๆเงยหน้าขึ้นมาอย่างกล้าๆกลัวๆ สบตาสิงโตอีกครั้ง..ดวงตาของคนหนุ่มดาราชื่อดังก้องยังจดจ้องมาไม่คิดละสายตาไปไหน ราวกับเวลาหยุดหมุน..หยุดนิ่ง..สิงโตเริ่มขยับเข้ามาใกล้ คริสตาสั่นไหวร่างกายที่ควรขยับดันแข็งทื่อมาเสียอย่างนั้น
อีกนิด..อีกนิด…อีกนิด..
พรวด!!!
ชายผิวขาวเด้งพรวดเสียอย่างนั้นทันทีที่นึกถึงเรื่องสำคัญขึ้นมาได้ รีบคว้าหยิบเอามือถือบนหัวเตียงมาดูเวลา
“ชิบหาย! 8 โมงแล้ว!!” ร้องตกใจหน้าตาตื่น รีบก้าวขาลงจากเตียง ทว่า..กลับโดนวงแขนกำยำเกี่ยวเอวรั้งเอาไว้
“จะไปไหน?”
“คริสต้องไปดูแลพี่กาย” สิ้นคำตอบ หน้าเคร่งขรึมแปรเปลี่ยนสีหน้าบึ้งตึงออกมาเห็นได้ชัด สิงโตออกแรงเพียงเล็กน้อยก็สามารถดึงคริสกลับลงมานอนที่เตียงแล้วเข้าสวมกอดด้านหลังทันที “เฮ้ย!!พี่สิง!?”
“ไม่ต้องไป อยู่นี่” ดาราหนุ่มออกคำสั่ง คริสขยับตัวยุกยิกพยายามแกะมืออีกฝ่ายจากเอว ทว่า..ยิ่งทำ คนด้านหลังยิ่งออกแรงกอดรัดแน่น ดึงเข้ามาจนแผ่นหลังปะทะแนบชิดแผงอกแกร่งไร้ช่องวางใดๆ ใบหน้าคมซุกลงที่ต้นคอ ลมหายใจรดหลังทำเอาคนในอ้อมแขนขนลุกชัน รู้สึกหวิวในอกแล่นริ้วไปถึงปลายเท้า
“ไม่ได้พี่สิง ถ้าคริสไม่ไปทำงาน คริสไม่มีเงินใช้”
“ก็เงินในกระเป๋าพี่ไง”
“ห้ะ!!?”
“เงียบได้แล้ว จะนอน เมื่อคืนนอนได้แป๊บเดียวเอง”
ตัดบทสนทนายืดเยื้ออย่างเอาแต่ใจสมนิสัยเสียของ สิงโต ปราชญา ที่รู้กันสำหรับคนสนิทว่าบทจะดื้อก็ไม่เคยคิดจะยอมใครง่ายๆ ต่อให้เป็นคนดื้อสุดรั้นอย่าง คริส พีรวัส ที่ทุกคนต้องยอมให้แถมสิงโตก็ค่อนข้างตามใจ ณ เวลานั้นคริสเองก็ยังต้องยอมให้สิงโตเลยเสียด้วยซ้ำ
ทว่า..นั่นเป็นเพียงอดีต..ปัจจุบันไม่ใช่..
ปากอิ่มเม้มแน่นกลั้นเสียงน่าอายที่เกือบหลุดออกมายามสิงโตออกแรงกอดรัดมากไปกว่าเกาจนสะโพกสัมผัสเข้ากับความเป็นชายของอีกฝ่าย คริสหน้าร้อนผ่าวกวาดตาลกลนไปทั่วทั้งห้องพักด้วยความประหม่า ตื่นเกร็งกลัวว่าจะพบกับเรื่องคืนวานในห้องน้ำต่อยาวมาถึงบนเตียงอีกครั้ง สุดท้าย..ก็ได้แน่นอยู่นิ่งเป็นหมอนข้างให้สิงโตกอดจนหลับไป
..ไม่เข้าใจพี่สิงเลย.. คำถามดังก้องในหัวถึงการกระทำของชายหนุ่มที่ขับไสไล่ส่ง กลับเป็นฝ่ายบุกเข้ามาหาและทำเรื่องน่าอาย..แต่กลับอ่อนโยนจนคริสโอนอ่อนไปเสียอย่างนั้น
กลัวแทบขาดใจ แต่..กลับถวิลหา..
ไม่ว่าจะคิดทบทวนเช่นไร ยิ่งมึนตึบไม่เห็นหนทางสว่าง พยายามแกะมืออีกฝ่ายกลับพบว่าแข็งยิ่งกว่าคีมเสียด้วยซ้ำจนขยับไม่ได้ เห็นชัดว่าสิงโตไม่คิดปล่อยเขา ขนาดเจ้าตัวหลับไปแล้วก็ยังแรงดีไม่มีตก สะท้อนให้เห็นว่า 6 ปีที่ผ่านมาว่านอกจากความก้าวหน้าในอาชีพ พละกำลังแตกต่างกันด้วยจากเก่าก่อนอย่างเห็นได้ชัด ทำใจยอมสงบอยู่นิ่งในอ้อมแขนอีกฝ่ายและหลับตาลงเข้าสู่ห้วงนิทราไปอีกคนอย่างเหนื่อยล้าจากกิจกรรมคืนวาน
..วันแรกที่หลับสนิทในรอบ 6 ปี..
.
.
.
เสียงช้อนส้อมกระทบกันแซ่ซ้องในห้องอาหารของทางโรงแรมชั้นล่าง กายคีบไก่ทอด 2 ชั้นเคียงคู่สปาเก็ตตี้คาโบนาร่าโรยเบค่อนทอดกรอบในจานเคนแล้วพากลับมายังโต๊ะกินข้าวที่มีพี่ยุ้ยและพี่เจนนั่งกินอาหารเที่ยงอยู่ พี่ยุ้ยตักอาหารเข้าปากไปแค่คำเดียวก็ต้องรีบวางช้อน สะกิดดาราหนุ่มที่ดูแลในปัจจุบันและชี้นิ้วไปทางประตูทางเข้าห้องอาหารที่เปิดออกพร้อมกับการเข้ามาของดาราหนุ่มชื่อดังและอดีตดาราที่เดินตามหลังมาติดๆ
คริสสอดสายตามองหาเจ้านายกับอดีตผู้จัดการจนเจอในที่สุด เขายิ้มกว้างจนเห็นลักยิ้มบนแก้มอย่างดีใจ เดินตรงหมายเข้ามาร่วมโต๊ะด้วย ทว่า..ก้าวมาไม่กี่ก้าว กลับโดนสิงโตคว้าจับมือ จูงลากไปยังโต๊ะริมหน้าต่างค่อนข้างปลีกวิเวกจากโต๊ะอื่นๆในห้องอาหารเสียอย่างงั้น
“นั่งสิ” ดาราหนุ่มในชุดโค้ทหนังสีดำกับยีนส์สีเดียวกันนั่งลงบนเก้าอี้ก่อน พอเห็นท่าทียึกยักของคริสเขาก็รีบพูดเร่งรัดอีกฝ่ายพลางพยักพเยิดไปยังเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม แถมส่งสายตาดุแกมบังคับเห็นได้ชัดเหมือนสมัยครั้งเป็นพี่ว้าก ด้วยการติดภาพความเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องร่วมคณะ เขาจำต้องกลืนน้ำลายลงคอ ยอมนั่งร่วมโต๊ะกับสิงโต
“เห็นเหมือนที่ฉันเห็นไหม พี่สิงจูงมือพี่คริส”
“เขานั่งโต๊ะเดียวกัน ลงมากินข้าวพร้อมกันด้วย”
“ยังไงกันแน่นะ”
เสียงซุบซิบกับสายตาคนรอบข้างจากผู้โชคดีร่วมทัวร์ระงมดั่งเสียงผึ้งบิน ตาเรียวสวยมองรอบกายลอกแลก ใจคอไม่ดี รู้สึกหนักอึ้งไปทั้งร่างจนไม่มีสมาธิดูใบเมนูชุดอาหารบนโต๊ะ พอมองไปยังชายรุ่นพี่แทนที่เจ้าตัวจะแสดงสีหน้าไม่พอใจกับการตกเป็นเป้าสายตากับเขา กลายเป็นนั่งดูเมนูอาหารชิลๆหน้าตาเฉยเสียอย่างงั้น
“พี่สิง..คริสคิดว่าให้มุกมานั่งตรงนี้เถอะ คริสไม่อยากให้เกิดดราม่า”
ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว..มันไม่ควรเป็นเช่นนี้
ที่สำคัญเป็นเรื่องเสี่ยงต่อการขุดคุ้ยอดีตที่สิงโตต้องการผลักไสให้ห่างตัว
แล้วเพราะเหตุอันใด?
“ไม่ต้องห่วง มุกเข้าใจ”
“มันไม่ใช่เรื่องนั้นอย่างเดียวพี่ พี่สิงก็รู้อยู่ว่า-“
“ทำอย่างกับว่าเรือพีรญาไม่ใช่เรือใหญ่ไปได้”
สิงโตชำเลืองตามองคนตรงหน้า คริสกลืนคำโต้แย้งลงหลังได้ยินประโยคที่ดาราหนุ่มอดีตคู่จิ้นในวันวานกล่าวออกมาถึงแฮชแทคคู่จิ้นคริสสิง ยิ่งสายตาคมกริบจดจ้องมาด้วยแววตาที่ค่อนข้างนุ่มนวลลงกว่าทุกวันจนแทบเหมือนก่อนโดนจับคลุมถุงชน เขายิ่งหน้าเห่อร้อนโดยไม่ทราบสาเหตุจำต้องแสร้งทำเป็นหยิบเมนูขึ้นมาดูปิดบังหน้าตัวเองจากสายตาคนตรงหน้าเสียอย่างนั้น
พูดบ้าอะไรเนี่ย!?
อดีตดาราดังกู่ร้องในใจอย่างไม่เข้าใจเลยจริงๆกับพฤติกรรมของสิงโต ปราชญา จนกระทั่งพนักงานเสริฟ์ชาวจีนเดินมาถามเมนู การสนทนาระหว่างคนทั้งคู่จึงหยุดอยู่แค่นั้น
.
.
.
หลังจบมือเที่ยงของวันเสร็จสิ้น ทัวร์วันสุดท้ายเริ่มต้นการเดินทางอีกครั้ง ในวันนี้เปิดเป็นฟรีสไตล์ให้ทุกคนได้เดินท่องเที่ยวกันตามใจฉันเพื่อจับจ่ายใช้สอยรวมถึงซื้อของฝากติดไม้ติดมือกลับไปเมืองไทย คริสอาศัยจังหวะรีบยัดอาหารให้หมดก่อนและรีบปลีกตัวลุกออกจากโต๊ะโดยไม่คิดรีรอสิงโต จิตสำนึกการทำงานของโฟกัสไปที่กายตลอดเวลา พอเห็นว่าอีกคนกินเสร็จก็รีบตามไปหาติดๆเพื่อทำงานให้คุ้มค่าจ้างและโอกาสที่ได้รับ
“ไม่เป็นไรคริส วันนี้ไปอยู่กับสิงโตเถอะ” กาย ศิวกร กลับเอ่ยประโยคนี้หน้าโรงแรมเสียอย่างงั้น
“…พี่กายจะไล่คริสออกเหรอ?” คริสถามทั้งสีหน้าสลด
“ไม่ใช่อย่างนั้นคริส เอ่อ..คือ..พี่ไม่ค่อยมีอะไรต้องดูเท่าไหร่ อีกอย่างพี่เจนก็ติดธุระกับทางสตาฟ พี่เลยอยากให้คริสไปช่วยทางนั้น ไม่ต้องห่วงนะทางนี้หรอก พี่ยังมีพี่ยุ้ยอยู่” พี่กายตอบทั้งสีหน้าลกลนพอเห็นท่าทีหงอยลงเหมือนหมาน้อยเซื่องซึม พอได้ฟังเหตุผลคริสก็ดูมีท่าทีลำบากใจ ดูก็รู้ว่าไม่พร้อมเท่าไหร่ที่จะเข้าประกบติดกับสิงโต แต่ถึงอย่างนั้นเจ้าตัวก็โตพอที่จะเข้าใจว่างานก็คืองาน เมื่อนายสั่งก็ต้องทำตามอย่างเลี่ยงไม่ได้
..จึงเป็นสาเหตุให้คริสจำเป็นต้องเดินตามหลังสิงโต..
ขายาวสวมผ้าใบสีขาวย่ำลงบนทางเท้าปกคลุมหิมะประปรายทั่วถนนใต้ผืนฟ้าช่วงบ่าย ไอเย็นพัดผ่านจนต้องกระชับผ้าพันคอสีเขียวขึ้นปิดจมูกแดงโร่ ตาคู่เรียวสวยมองแผ่นหลังกว้างใหญ่ของคนสูงไล่เลี่ยกัน
แผ่นหลังที่เฝ้ามองมาตลอด นับตั้งแต่จุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์
จากไม่รู้จัก กลายเป็นรู้จัก กลายเป็นพี่น้อง และกลายเป็นคนห่างไกล
รองเท้าผ้าใบสีดำก้าวเดินทิ้งช่วงห่างไปบนพื้นกระเบื้องสีดำขนาบซ้ายขวาอาคารบ้านเรือนสถาปัตยกรรมเก่าแก่อันคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของเมืองลี่เจียง คริสจำต้องเร่งฝีเท้าอีกนิดเพื่อกวดเดินให้ทัน
กึก!
สิงโตหยุดเท้าลง เหลียวหน้ามามองคนหนุ่มผิวขาวสวมโค้ทแดงลายสก็อตเข้ายีนส์สีอ่อน อีกก้าวเดียว..คริสจะเดินไปยังระดับเดียวกัน
“…”
“…”
เหมือนสิงโตกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง คริสเลือกถอยร่นระยะห่างลงมาอีกก้าว ถอยมาเพียงยืนด้านหลังไม่คิดตีขึ้นมาเดินเสมอ แล้วหันไปคุยกับหลานชายที่วิ่งจับมือเขย่าไปมา ชี้นิ้วไปยังร้านขายของ 10 หยวนในตึกแถวหัวมุมซ้าย
“อาคริสๆ เคนอยากไปดูของเล่นร้านนั้น ไปดูกันนะฮะ” เขย่าเร่งเร้าทำหน้าอ้อนบึนปากไปอีก ถอดแบบคนเป็นอามาไม่มีผิดเพี้ยน เห็นแล้วช่างน่าขันระคนเอ็นดูจนสิงโตจำต้องหันหน้าหนีไปยิ้มขำไม่ให้สองอาหลานรู้
“แต่ว่า อามาทำงานนะน้องเคน ตอนนี้คงไม่ได้” คริสย่อนั่งอธิบายให้หลานชายฟังทั้งเสียงกระซิบ แต่ก็ยังเข้าโสตประสาทการได้ยินของดาราหนุ่มอยู่ สิงโตเหลือบมองคนเป็นอาทำหน้าลำบากใจ ส่วนคนเป็นหลานก็หน้าหงำงอ เริ่มออกเบะปากเห็นได้ชัด
เอาแล้ว วิธีสากล งอแงเอาของเล่นก็มา..
“คริส พี่ว่าจะแวะดูของ ไปช่วยถือหน่อย” คนที่แต่เงียบเอ่ยเรียกชื่อชายผิวขาว ชี้นิ้วโป้งไปร้าน 10 หยวนหัวมุม คนผิวขาวมองร้านดังกล่าวซึ่งเป็นร้านเดียวกับที่เคนอยากเข้าพอดิบพอดี ไม่รู้บังเอิญหรือจงใจแต่ในเมื่อเป็นงานจำต้องพยักหน้าตอบรับคำขอของอีกฝ่าย เคนเห็นว่าจะได้เข้าร้านขายของอย่างที่ตัวเองต้องการก็กลับมาฉีกยิ้มร่าเริง วิ่งนำหน้าผู้ใหญ่เข้าร้านไปก่อนเสียอย่างนั้น
ร้านในตึกแถวขนาด 2 ห้องแถวใหญ่ที่เจ้าของร้านเหมาซื้อทำเป็นร้านของของฝากจิปาถะมากมาย ทั้งกระเป๋าเสื้อผ้าทำมือและของเล่นพื้นบ้านมากมายจัดเรียงไว้บนเค้าท์เตอร์เรียกความสนใจจากหลานชายได้เป็นอย่างดี นัยน์ตาคู่เรียวละสายตาจากหลานมายังอีกคนที่บอกว่าเข้าร้านแวะดูของ กำลังเดินทอดน่องเรื่อยเปื่อยผ่านเข้าไปในซุ้มโมบายที่ระลึกทำจากไม้แกะสลักห้อยโชว์เรียงรายบนเพดาน
ลมหนาวพาเอาโมบายขยับไหวส่งเสียงกรุ๊งกริ๊งดังกังวาน..ดังดนตรีขับขานก็ไม่ปาน
“ชอบเหรอ?” สิงโตเอ่ยถาม คริสละสายตาจากโมบายแกะสลักเป็นรูปนกสองตัวเคียงคู่กันมายังคนหนุ่มตัวสูงไล่เลี่ย ยืนอยู่ระยะที่ไม่ใกล้และไม่ไกลจนเกินไป
“เปล่าพี่ คริสแค่นึกถึงนกกระจาบที่ทำรังบนระเบียง” นัยน์ตาเรียวสวยสะท้อนนกไม้แกะสลักในวันวาน ทั้งที่หัวนึกย้อนความทรงจำในเรือนหอที่เป็นเพียงเรือนหอจอมปลอมที่จากจรมานานนับ 6 ปี “คริสกำลังคิดว่าพวกมันบินไปไกลแค่ไหน”
โผบินอย่างอิสระ บนท้องนภาอันกว้างใหญ่
มนุษย์ปรารถนาเป็นปักษาได้ แต่มิอาจรู้ได้หนทางข้างหน้าเป็นเช่นไร
สิงโตหลุบตาลงอย่างเข้าใจ กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก จุกแน่นจนไม่รู้จะสรรหาคำพูดใดๆมาคุยกับคนที่หวนนึกถึงอดีตอันน่าเจ็บปวดระหว่างเราสองคนจนส่งผลอันยาวนานมาถึงความสัมพันธ์ในตอนนี้
เวลาพัดพาให้เจอและพัดพาให้จากไกล
เนิ่นนานเพียงใด ไม่มีทางลบเลือนได้ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันคือเรื่องจริงที่มิอาจหวนคืนไปแก้ไขได้อีกแล้ว สิงโตเงยหน้ามองดวงหน้าขาวผ่องครึ่งซีก เขาสูดลมหายใจลึกคิดอย่างถี่ถ้วนจนแน่ใจว่าจะพูดอะไรและเดินเข้าไป
ทว่า..คริสกลับหันหลังให้เขา..เดินห่างออกไป
“อาคริส เคนซื้อตัวนี้ได้ไหม”
“โอเค เอาอันนี้นะ”
แผ่นหลังของรุ่นน้องที่ห่างออกไปสะท้อนในดวงตาสีดำ..ดวงตาที่หวนนึกถึงภาพจำในอดีตคืนวันดีงามระหว่างเราที่กดเอาไว้ใต้ความโกรธมานานนับ 6 ปี สิงโตเม้มปากแน่น กลั้นอารมณ์หน่วงในอกเอาไว้ไม่ให้ปะทุออกมา สูดลมหายใจลึกและผ่อนออกช้าๆ ปรับท่าทีมาเคร่งขรึมกลบเกลื่อนอารมณ์และเดินเข้าไปสมทบอาหลาน
แผ่นหลังที่เฝ้ามองมาตลอดไม่ต่างกัน
ทั้งดีที่สุดและร้ายที่สุดปะปนกันไปจนถึงตอนนี้
หลังจากออกจากร้านค้า 10 หยวน ไม่มีบทสนทนาอะไรระหว่างคริสและสิงโตอีกเลย ตลอดการเดินทางมีเพียงเคนที่คอยพูดทำลายความเงียบระหว่างคนทั้งสองตามประสาเด็กช่างจ้อไปเรื่อยเปื่อย
แชะ!! แชะ!!
ชายผิวขาวผ่องนั่งมองสิงโตถ่ายรูปหลานชายโพสท่าเท่ห์อยู่ใต้ต้นดอกท้อจากม้านั่งริมทะเลสาบหลูกู พอถ่ายเสร็จก็รีบวิ่งมาหาตากล้องที่ยอมย่อตัวนั่งลงระดับเดียวกับความสูงเด็ก โชว์ภาพที่ถ่ายเมื่อครู่ให้ดูผ่านจอดิจิตอลหลังกล้อง
“โอ้โห! ลุงดำถ่ายรูปสวยจัง!” เคนชมเสียงดัง สิงโตยิ้มเห็นฟันขาวขอบคุณสำหรับคำชมดังกล่าว
รอยยิ้มของสิงโต ปราชญา มีเสน่ห์เสมอไม่เคยเปลี่ยน
คริสลอบยิ้มประทับใจในตัวรุ่นพี่คณะที่นับถือและเคารพรักยิ่ง คนที่เขานับถือเป็นพี่ชายที่หนึ่งในใจเสมอมาจากทุกการกระทำที่ทำให้กันและกัน ดูแลกัน เทคแคร์ สนุกสนาน เตือนสติกันและกัน คนหนึ่งงอน คนหนึ่งง้อ เป็นความสัมพันธ์เรียบง่ายไม่หวือหวาอะไรเปี่ยมไปด้วยความปรารถนา
ชอบรอยยิ้มของสิงโต ชอบทำให้คนหน้านิ่ง ได้ยิ้ม ได้มีอารมณ์ขัน
ปัจจุบันทำไม่ได้แล้ว
หลังนายแบบเบื่อที่จะโพสท่าให้ถ่ายรูป เจ้าตัวเลือกวิ่งไปหาอาซึ่งนั่งอยู่บนม้านั่งใต้ต้นดอกท้ออีกต้นหนึ่ง ณ ริมทะเลสาบเช่นกัน สิงโตลุกยืนเต็มความสูงเอนกายพิงลำต้นดอกท้อที่เคนถ่ายเป็นฉากหลังเมื่อครู่ กดดูย้อนไฟล์ถ่ายรูปเก่าๆ ตั้งแต่วันแรกของทัวร์ท่องเที่ยวเมืองจีน ปลายนิ้วยาวไถหน้าจอสัมผัสปัดเลื่อนดูทีละรูปไล่ไปเรื่อยๆ
กระทั่งมาถึงรูปมุกที่ถ่ายติดคริสกับหลาน
จดจ้องรูปถ่ายเนิ่นนาน..พิจารณาอยู่เช่นนั้นกับรูปที่ถ่ายออกมาผิดพลาด ที่ดูยังไงก็เป็นรูปเสียที่ไม่อาจใช้การได้ นัยน์ตาคู่คมสะท้อนรูปนั้นพร้อมตั้งคำถามกับตัวเองอีกครั้ง
โฟกัสผิดพลาดที่..เขารู้แก่ใจ
เหมือนคำถามว่า ‘ทำไม’ ในหัว
ปลายนิ้วปัดผ่าน เก็บรูปดังกล่าวเอาไว้ กลับมาโหมดพร้อมถ่ายอีกครั้ง เลนส์กล้องจับโฟกัสไปยังคนหนุ่มผิวขาวผ่องสวมโค้ทแดงลายสก็อตนั่งมองหลานวิ่งเล่นไปเก็บกิ่งไม้ที่หัดหล่นบนพื้นทั้งรอยยิ้มเอ็นดูในตัวหลานชาย
รูปมันชัดเจนดีอยู่แล้วก็แค่นั้น
แชะ!!
.
.
.
ทะเลสาบหลูกูกว้างยาวสุดลูกหูลูกตา สวยงามเหมือนสมัยมาเยือนในงานมีตติ้งคู่หลายปีก่อนในยุคสมัยที่คริสยังเป็น คริส พีรวัส นักแสดงหนุ่มไม่ต่างจากเพื่อนพ้องที่มาเป็นแกนนำคณะทัวร์ในอดีตกาลช่วงแรกๆของการเข้าสู่วงการบันเทิง ความงดงามที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ไว้ไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์จะทำได้ ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ทำให้คนทุกคนที่มาพบเห็นต้องหลงใหลในความงาม คริสสัมผัสได้ว่ามีคนมานั่งบนม้านั่งข้างกาย ต่อให้ไม่หันไปมองกะเกณฑ์จากน้ำหนัก ก็พอเดาได้ว่าเป็นสิงโตอย่างไม่ต้องสงสัย
“ผ่านมา 7 ปีแล้วนะ ที่เคยมาที่นี่” สิงโตเปิดบทสนทนาพลางทอดมองวิวธรรมชาติงดงามตรงหน้า คนหนุ่มนั่งอยู่ก่อนเลือกที่จะพยักหน้าเงียบๆ ไม่แน่ใจเลยว่าสิงโตต้องการอะไร ตั้งแต่เรื่องคืนวานจนมาถึงตอนนี้ ทุกการกระทำที่เหมือนจะเข้าหาตลอดเวลาจนสับสนไปหมด
ในเมื่อปรารถนาให้ออกไปไกลไม่ใช่หรือ?
“….”
“….”
บรรยากาศกลับเข้าสู่ความเงียบอีกครั้ง สายลมหนาวพัดผ่านระหว่างคนทั้งสองราวกับบ่งชี้ให้รู้ซึ้งถึงระยะห่างที่ไกลออกไปแม้อยู่ใกล้กันก็ตาม ต่างคนต่างทอดมองเพียงวิว ไม่มีใครหันมาสบตากันและกัน
“คริสเปลี่ยนไปเยอะนะ” และยังคงเป็นสิงโตที่เปิดเรื่องคุยอีกครั้ง และพยายามที่จะคุยต่อ “ดูนิ่งขึ้น”
“พี่สิงก็เหมือนกัน เปิดตัวเข้าสังคมมากขึ้น คุยเก่งขึ้น” ปากสีชมพูขยับพูดคุย โต้ตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงชื่นชมอย่างจริงใจไม่คิดเสแสร้งแต่อย่างใด นัยน์ตาเรียวหลุบต่ำมองมือทั้งสองบนตักที่เริ่มสะกิดเล็บไปมา “ถ้าหากคริสไม่พลาด คริสอาจจะดังเท่าพี่สิง..อาจจะได้อยู่กับพี่ในฐานะคริสสิงต่อไป..แต่คงไม่มีวันนั้นแล้ว”
“แต่ทั้งหมดก็ไม่เท่ากับคริสเสียพี่ชายที่ดีที่สุดไป..”
ราคาที่ต้องจ่าย แลกกับสัญลักษณ์อันไม่จริง
“พี่ก็เสียน้องชายที่ดีที่สุดไปเหมือนกัน” สิงโตตอบกลับมาทั้งเสียงเรียบนิ่ง คำตอบที่ทำเอาคริสน้ำตาคลอเบ้า ขอบตาร้อนผ่าวแต่เจ้าตัวสูดลมหายใจลึกพยายามกลั้นเอาไว้ไม่ให้ไหลออกไป มือยิ่งสะกิดเล็บแรงขึ้น..แรงขึ้น..ปากสั่นระริกจนรู้สึกได้ฝืนขยับเอ่ยเอื้อนหนึ่งคำถามที่ค้างคาใจตลอด 6 ปี
“พวกเรากลับไปเป็นเหมือนเดิมได้ไหม?” คำถามที่ทั้งน่าสะพรึงกลัวและใคร่รู้เป็นที่สุดจากก้นบึ้งของหัวใจคริส
..ได้โปรด..
“ไม่มีอะไรที่เหมือนเดิมคริส” คำตอบจากสิงโต ทำเอาคริสสะอึก เจ็บในอกซ้ายเหลือเกินคณา เจ็บลึกจนคุมร่างกายไม่ให้สั่นไม่ได้อีกแล้ว ขบฟันแน่นกลั้นเสียงสะอื้นเอาไว้จนกรามขึ้นสัน พยักหน้าอย่างเข้าใจดี
แก้วแตก ย่อมไม่มีวันหวนคืนเป็นแก้ว
“แต่สามารถเปลี่ยนไปอีกรูปแบบได้” สิงโตพูดต่อ ถอดแหวนเงินแฟชั่นสลักลวดลายแฟชั่นที่ชอบใส่ติดตัวบนนิ้วนางขวาออก ก่อนจะคว้าหยิบมือขาวผ่องข้างซ้ายบนตักมา คริสหันมามองคนข้างตัวอย่างช้าๆ ตาแดงก่ำวาววับคลอเบ้าทอประกายปวดร้าวจ้องมองมือซ้ายตัวเองที่โดนสิงโตจับไว้
..บรรจงสวมแหวนลงบนนิ้วนางซ้าย..
ความเย็นของโลหะที่ห่างจากสัมผัสไปนางแล่นริ้วบนนิ้วนางซ้าย คริสตาโตมองมือแกร่งเคล้นคลึงแหวนตัวเองที่ประดับบนนิ้วนางซ้ายของตนพลางหมุนไปมาอยู่อย่างนั้นพลางบ่นพึมพัมว่า ‘ผอมลงไปเยอะเลย’ ก่อนจะเงยหน้าฉายฉายความไม่เข้าใจมายังใบหน้าผู้เป็นเจ้าของแหวน
“เอาไว้ก่อนเป็นสัญลักษณ์ กลับไปไทยพี่จะหาซื้อที่ดีกว่านี้ให้”
คริสอ้าปากเหวอ อึ้งค้างอยู่นานสองนาน ทบทวนทุกประโยคที่สิงโตพูดออกมาจนถึงประโยคล่าสุดวนซ้ำไปมาจนเข้าใจความหมายที่สิงโตต้องการสื่อสารกับเขา ชายผิวสองสีมองคนที่หน้าแดงก่ำลุกลามไปถึงใบหูน้อยๆ แดงที่สุดในชีวิตที่เคยเห็นจาก คริส พีรวัส ช่างน่าเอ็นดูจนอดไม่ได้ที่จะ..ยิ้ม..
ในที่สุดก็ ‘ยิ้ม’ ออกมา
“คำตอบล่ะ?” เสียงทุ้มอ่อนโยน..กลับมาแล้ว..รอยยิ้มวันวานที่เคยได้มา..กลับมาแล้ว..บุรุษผิวขาวผ่องถึงกับปล่อยโฮออกมาไม่ต่างจากเด็กน้อย ปลดปล่อยน้ำตาที่อัดอั้นมาตลอด 6 ปีต่อหน้าชายที่ปรารถนาอยากเปลี่ยนความสัมพันธ์เป็นในอีกรูปแบบหนึ่ง มือแกร่งประคองหน้ากลมแป้นที่ซูบตอบไปมากโขอย่างเบามือ คริสวางมือตอบและจับแน่นให้รู้แน่ชัดว่านี่ไม่ใช่เรื่องโกหก
อะไรที่เคยอยู่ในมือ กลับมาแล้ว
เสียงครวญสะอื้นกระซิบคำตอบทั้งเสียงอู้อี้ ถึงอย่างนั้นกลับดังมากพอให้สิงโตได้ยินชัดเจน เขายิ้มบางทอดสายตาเปี่ยมรักพิศมองหน้าเหยเกทั้งน้ำตาอาบแก้มจนแดงก่ำ ก่อนโคลงศีรษะลงแนบหน้าผากสัมผัสหน้าผากอีกฝ่ายเอาไว้พลางใช้นิ้วโป้งปาดเช็ดน้ำตาให้ ปลอบประโลมคนตรงหน้าอย่างที่เคยทำมา..และจะทำตลอดไปจนวันตาย..
สู่สัญลักษณ์อัน ‘แท้จริง’
END
+++++++++++++++++++++++
จบแล้วค่ะสำหรับภาคจบของ symbolic the series เหลือสเปเชี่ยลในทวิตอีก 4 ตอนที่จะเอามาขยายต่อด้วยเช่นกันเด้อ จะเป็นเรื่องราวหลังจากนี้
อ่านถึงตรงนี้น่าจะเข้าใจแระ ฟิคนี้มาเพื่อสื่อเรื่อง symbol = การแต่งงาน นั่นเอง
สำหรับรวมเล่ม ขอแจ้งข้อมูลอัพเดท 1 ก่อนนะ
รวมเล่มเรื่องนี้มี 2 เล่มไซส์ B6 เด้อ ความพิเศษคือ ในรวมเล่มจะแถมสเปเชี่ยลที่ไม่เคยลงที่ไหนแุถมให้ไปอีก
เล่ม non symbolic จัดเสร็จแล้วอยู่ที่ 117 หน้า สเปเชี่ยลภาค non ใบ้ว่าเป็นเรื่องเกิดขึ้นในช่วงระหว่าง 6 ปีของคริสและสิงโตที่ไม่ได้อธิบายไว้
ส่วน symbolic นั้นยังจัดไม่เสร็จ เพราะยังปั้นไม่เสร็จนั่นเอง ฮาาาาาาาาาาาาาาา
การเปิดจองจะมาหลังลงสเปเชี่ยลตอนสุดท้ายค่ะ รอติดตามนะเด้อ
เพลงสำหรับตอนนี้ คงไม่มีอะไรเหมาะไปมากกว่าเพลงนี้แล้วล่ะเนอะ เอ้า!!!
เธอทำให้ได้รู้ แปะให้สองเวอร์เลยอ่ะ ต้นฉบับกับสิงต้วน ใครใคร่ฟังแบบไหน จิ้มเลยครัช
potato
https://www.youtube.com/watch?v=Fw0mDjq0A_w
สิงต้วน
https://www.youtube.com/watch?v=iAQcvAl2CYw
เจอกันตอนหน้ากับสเปเชี่ยลนะครัช บายจ้า