[Fic นักแสดง Sotus] Symbolic the series/SK symbolic(Special)

[Fic นักแสดง Sotus] Symbol the series

Pairing : สิงโต คริส พีรญา

Rate : NC-17, Drama

Story : blood_hana

*เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพียงการสมมุติขึ้น ไม่ใช่เรื่องจริง โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม

*ภาคต่อจาก non symbolic 

++++++++++++++++++++++++++++++++++

 

SK Symbolic

1 ปีผ่านไป..

กาลเวลาเดินไปอย่างรวดเร็ว ดั่งเช่นสายลมพัดพาและผ่านไป ไหวระลอกใบไม้บนกิ่งก้านในสวน ระริ้วพลิ้วไหวไปมา รวมถึงนำพากลิ่นหอมดอกไม้นานาชนิดในสวนลอยผ่านหน้าต่างเปิดอ้าระบายอากาศ แสงแดดไม่แรงจัดอบอุ่นสะท้อนแหวนทองคำสลักคำเป็นภาษาอังกฤษไว้อย่างงดงาม

‘ SK Symbol ’  

 ถ้อยคำที่ใช้เป็นสัญญา เรียบง่าย ไม่หรูหราเท่าคำสาบานที่ใช้ในโบสถ์ ทว่า..กลับเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกมากล้นเกินบรรยาย

 

สัญลักษณ์แห่ง ‘รัก’

 

คริสคลึงแหวนบนนิ้วนางซ้ายไปมา รอยยิ้มอิ่มเอมใจวาดขึ้นบนดวงหน้าขาวผ่อง มองไปรอบกาย ห้องรับแขกผนังสีครีมเรียบง่ายปูพื้นลามิเนจลายไม้ แบ่งสัดส่วนห้องครัวไว้ด้านหลังบ้าน ถัดไปเป็นบันไดขึ้นไปยังชั้นสองอันเป็นห้องนอน ด้านอกเป็นสวนร่มรื่นมีทั้งไม้ดอกไม้ประดับปะปนกันให้ความเป็นส่วนตัว ทั้งหมดเป็นบ้านขนาดกลางสไตล์โมเดิร์นที่สร้างขึ้นตามแบบที่คริสอยากได้เพราะอาศัยอยู่แค่ 2 คน จึงไม่อยากใช้เงินทองให้ฟุ่มเฟือยไปมากกว่านี้

เรือนหอของคริสและสิงโตที่สร้างด้วยใจ

 

เขาหลุบตาลงไปยังชายหนุ่มผิวสองสีนอนหลับสนิทเหมือนเด็กน้อยบนตักในวันหยุดไร้ตารางงาน มือแกร่งข้างซ้ายประดับแหวนทองคำรูปแบบเดียวกันวางทับบทละครที่จำต้องท่องบนอก คนที่ควักเงินจ่ายทุกสิ่งอย่างให้ตั้งแต่แหวนยันเรือนหอ ทั้งที่คริสขอให้รอไปก่อน จะหางานช่วยกันเก็บเงินแต่สิงโตกลับบอกว่าไม่เป็นไรลูกเดียว

“พี่ไม่อยากรอ เราต่างรอกันมานานมากพอแล้ว”

คำๆ เดียวที่เอาคริสสะอึกและต้องยอมตามใจอีกฝ่าย ยิ่งมองก็ยิ่งไม่อยากเชื่อว่าทุกสิ่งที่อยู่ตรงนี้คือเรื่องจริง ไม่ใช่ฝันไป อดีตแสนทรมานที่เกิดขึ้นระหว่างคริสและสิงโตที่จำต้องเก็บซ่อนไว้ในใจมาตลอดมานานหลายปี ราวกับว่าเป็นเพียงฝันร้ายเสียอย่างนั้น

มาให้จำและนำไปเป็นบทเรียน

 

“ 7 ปีแล้ว..กับเรื่องราวต่างๆมากมาย”

ความสัมพันธ์ที่แปรเปลี่ยนทุกสิ่งจากพี่น้องไปสู่คลุมถุงชนและกลายเป็นการแต่งงานที่แท้จริง

.

.

.

แชะ!! แชะ !!

 

แสงแฟลชสาดส่องจากกล้องหลายตัวของทางสำนักข่าวมากมาย แห่แหนมาเก็บข่าวฮอตสะเทือนวงการบันเทิงอีกครั้ง หลังจากทัวร์โออิชิกลับจากจีนได้เพียงวันเดียว

“ใช่ครับ ผมกับคริสเรากลับมาคบกันและจะแต่งงานกันเดือนหน้า” สิงโต ปราชญา นักแสดงหนุ่มดาวรุ่งประกาศแต่งงานออกสื่อโดยไม่คิดแยแสต่อคำครหาวิจารณ์ใดๆ ไม่ว่าจะลบหรือบวก

“อะไรที่ทำให้คริสสิงกลับมาคบกันค่ะ แล้วแต่งกันอีกครั้งนี่จะมั่นใจได้ยังไงว่าจะไม่กลับไปเหมือนแต่ก่อน” นักข่าวยิงคำถามย้อนไปถึงอดีตที่เคยเกิดขึ้นในวันวาน สิงโตหันมาสบตากับคริสที่กลับมายืดหยัดเคียงข้างพร้อมจับมือขาวผ่องเอาไว้สอดประสานมือเข้ากัน สัมผัสไออุ่นที่ขาดหายไปนับ 6 ปี

“ตอนนั้นเราสองคนยังเด็ก การตัดสินใจยังไม่ดีพอ แต่ตอนนี้พวกเราโตพอเข้าใจทุกอย่างแล้ว และผมมั่นใจว่าคริสคือคนที่ผมจะอยู่ด้วยไปจนวันตาย”

คนเน้นการกระทำ บทจะพูดกลับพูดออกได้น่าอายนัก  คริสหูแดงก่ำกับการให้สัมภาษณ์ของดาราหนุ่มชื่อดังทำเอาพวกนักข่าวแซวกันยกใหญ่ แซวหนักจนแดงไปทั้งตัว ยิ่งเห็นว่าสิงโตมองเขาด้วยสายตาอ่อนโยนมากความรู้สึกรักยิ่งและรอยยิ้มหวานเห็นฟัน ยิ่งทำเอาเขาใจเต้นแรงทำตัวไม่ถูกได้รีบก้มหน้างุดหลบหลังคนเป็นทั้งพี่และคนรักทันที

“ว้ายยย เขินแทน แล้วน้องคริสล่ะคะว่ายังไงบ้าง” นักข่าวอีกคนยื่นไมค์ตรงมายังคนที่เอาแต่หลบหลังงุดไม่ยอมออกมาให้สัมภาษณ์ทำเอาสิงโตหัวเราะเสียงดัง คริสถึงกับหน้างอทุบหลังอีกฝ่ายดังปักอย่างนึกหมั่นไส้

“พ..พี่สิงว่าไง ก็ตามนั้นครับ”

“ต่อให้น้องไม่ยอม ผมจะตื้อจนกว่าจะยอมแหละครับ”

“พอเลยพี่!!” คนขี้เขินง่ายโวยวายทั้งเสียงงุ้งงิ้ง ทุบหลังคนที่ชิงตอบบวกหยอดเข้าไปอีกดอก คนโดนทำร้ายร่างกายกลับยืนยิ้มแฉ่ง ไม่รู้ร้อนรู้หนาว ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวต่อด้วยท่าทีสบายอย่างคุ้นชิน

.

.

.

หลังให้สัมภาษณ์ไปสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้คือกระแสลบและบวกตีขึ้นมาต่างๆนาๆมากมายถึงเรื่องราวของคริสและสิงโต บ้างก็หาว่าเป็นการเรียกเรตติ้งบ้างหรืออะไรก็แล้วแต่ รวมถึงแฟนคลับสิงมุกกับทีมพีรญา บางส่วนพากันดราม่าเรื่องราวใหญ่โต แต่บางส่วนก็เข้าใจได้และร่วมอวยพรแสดงความยินดีให้ทีมพีรญาและคริส กระนั้นทุกสิ่งอย่างบนโซเชี่ยลหรือแม้แต่คำวิจารณ์จากสังคม ก็ไม่สามารถกดดันความรู้สึกระหว่างพวกเขาได้อีกแล้ว

ตราบใดที่ยังเคียงข้างกัน ไม่มีสิ่งใดต้องกลัว

เมื่อรู้แล้ว จงซื่อตรงต่อความรู้สึก

นี่ตั้งหากที่สำคัญ

เข็มของนาฬิกาติดฝาผนังเหนือโทรทัศน์จอใหญ่ หมุนบอกเวลา 9 โมง 35 นาที เป็นอันสมควรแล้ว คริสจึงสะกิดไหล่ปลุกชายคู่ชีวิตของตนให้ตื่น

“พี่สิง ตื่นได้แล้ว”

เงียบ..ไม่มีเสียงตอบกลับ..สิงโตยังหลับสนิท

“พี่สิง ครบชั่วโมงแล้วนะ”

เรียกย้ำอีกครั้ง สะกิดบนต้นแขนถี่ขึ้น สิงโตมุ่นคิ้วแล้วขยับตัว..นอนตะแคงซุกหน้าลงกับขาอ่อนขาวของคริส ลมหายใจรดต้นขากับคมหนวดโกนไม่ดีพอทำเอาคนหนุ่มผิวขาวขนลุกชัน หน้าเห่อร้อน

ไม่ควรใส่ขาสั้นใช่ไหม แอบคิดอยู่ในใจ

                “พี่สิง ฮัลโหล สิง..สิงต้วน..” เรียกแผ่วเบาในสรรพนามตอนท้ายอย่างไม่แน่ใจ ถึงจะแต่งงานใช้ชีวิตร่วมกันมาปีกว่าแล้ว คริสยังไม่มั่นใจที่จะกลับไปเรียกชื่ออีกฝ่ายด้วยชื่อแปลกๆที่เขาเคยตั้งให้สมัยยังรักกันดีในฐานะพี่น้อง

  สมควรรึเปล่านะที่จะเรียกอะไรที่สนิทแบบนั้นเหมือนก่อน

แต่คำเรียกนั้นกลับทำให้สิงโตตื่น หน้าคมคายหล่อเหลาลืมตาขึ้นด้วยแววตาวาบวับจ้องมองมายังเจ้าของตักที่ใช้หนุนนอน คริสกระดากอายพอได้สบตาที่หลุบตรงไปยังลำตัว รู้สึกไม่ปลอดภัยแม้จะสวมเสื้อยืดสีขาวขนาด Oversize ปิดร่างกายเอาไว้

อย่างที่รู้ สิงโตเป็นคนใช้สายตาเก่ง

เก่งขนาดใช้สายตาเปลื้องผ้าได้

“อะไรเนี่ย เล่นคู่กับน้องเจนเหรอ อย่าไปทำอะไรแปลกๆใส่เขานะเว้ย”  คนผิวขาวผ่องแสร้งเปลี่ยนเรื่องด้วยการดึงบทละครอีกฝ่ายขึ้นมาอ่าน

“ไม่ทำหรอก มีคนให้ทำอยู่ที่บ้านแล้ว” ไม่พูดเปล่าหันมาซนแถวต้นขาขาวเนียน เสียงจูบดังเป็นระยะกับสัมผัสหยาบโลนอันนุ่มนวลปนเปกับร้อนแรงทำเอาคนหนุ่มที่แกล้งทำเป็นไม่สนใจ ก้มหน้าก้มตาอ่านบท สติสตางค์แทบไม่อยู่กับตัว ซ่อนใบหน้าที่กลั้นอารมณ์เอาไว้หลังกระดาษเย็บมุม เม้มปากแน่นเป็นแนวเส้นทั้งที่หูแดงก่ำไปถึงไหน

แม่งเอ้ย!!! กูไม่ควรใส่ขาสั้นจริงๆ ด้วย!!!

“พอ! มึงหยุดเลย!! จะเข้าฉากพรุ่งนี้แล้วยังจำไปไม่ถึงครึ่งด้วยซ้ำ!!” ทนไม่ไหวแล้ว คริสเอาบทละครตีหัวคนที่เอาแต่ลวนลามขาอ่อนเขาไม่คิดหยุด ในที่สุดสิงโตยอมละปาก ตวัดสายตาคมกริบตามด้วยคำถามทั้งเสียงทุ้มเย็นอันน่าใจหายลงตาตุ่ม

“มึงกับใคร”

คริสเงียบกริบ หน้าเสียที่ตัวเองคะนองปากมากเกินไป ตาเรียวทอประกายสั่นไหวอย่างหวาดหวั่น มองคนหนุ่มผู้เป็นดาราดังหยัดกายลุกขึ้นมานั่งจ้องตาทั้งหน้านิ่งเสียจนน่ากลัว ที่สำคัญยังเขยิบตัวเข้ามาใกล้เรื่อยๆ นี่อีก

 

อะไร อะไร อะไร?

คนโดนรุกสอดสายตามองหาทางหนีทีไล่ จะลุกจากโซฟาก็ไม่ทัน สิงโตเร็วกว่าเอามือวางคร่อมพนักพิงล็อคเอาไว้ คริสร่นถอยจนหลังชิดยุบไปกับพนักพิงโซฟา หอคอลงจนคางชิดอกเมื่ออีกฝ่ายรุกไล่เข้ามาใกล้จนหน้าห่างกันไม่กี่เซน

“พูดอีกทีสิ”

“ห้ะ!? เรียกอะไร?”

“แบบเมื่อกี๊..”

ลมหายใจรดหน้าผากสม่ำเสมอ บ่งชี้ให้รู้ว่าสิงโตจะไม่ยอมไปไหนง่ายๆแน่ ตราบใดที่เขาไม่พูดอะไรบางอย่างที่ต้องการ คริสค่อยๆเงยหน้า สบตาคู่คมที่จดจ้องมาทั้งแววตานิ่งไม่ไหวติ่ง และก็เป็นทุกครั้งที่ไม่อาจหาญเอาชนะการแข่งจ้องตาได้ซักครั้งจนต้องเฉตาไปทางอื่นพลางครุ่นคิดทบทวนสิ่งที่สิงโตต้องการให้พูด

หรือว่า..

ปากอิ่มเม้มแน่นเป็นแนวเส้นอย่างลังเลไม่แน่ใจว่าจะเดาถูกไหม ก่อนขยับเปิดปากถามทั้งเสียงแผ่วเบา

“สิงต้วน..เหรอ?”

จุ๊บ!!

คำตอบของคำถามกลายเป็นจูบเบาๆโดยไม่คิดเตือนกันก่อนล่วงหน้า คนถูกขโมยจูบสะดุ้งโหยงตกใจหน้าเหวอ ในขณะที่อีกคนคลี่ยิ้มกว้างจนเห็นฟันขาว ใช้ปลายนิ้วโป้งเกลี่ยริมฝีปากชมพูนุ่มไปมาอย่างทะนุถนอม

“น่ารัก” พูดจบก็ลุกจากโซฟาพร้อมดึงบทละครที่จำต้องท่องในมือคนรักเดินออกไปจากห้องรับแขก ทิ้งคนเขินให้นั่งซุกหน้าลงกับฝ่ามือจนไม่เห็นสีหน้าเว้นเสียแต่ใบหูแดงดั่งลูกมะเขือเทศสุก

“โอ๊ยยยยยย”

.

.

.

ตะวันเคลื่อนคล้อยไปอยู่เหนือศีรษะ ไอแดดอบอุ่นเปลี่ยนเป็นร้อนระอุ โชคดีที่มนุษย์มีสิ่งที่เรียกว่าหลังคาบ้านคอยคุ้มกันหัวอยู่ ไม่อย่างนั้นคงได้สุกเหมือนเมนูไข่ในกระทะ

“คริสทำอะไรกินเหรอ?”

“ไข่ข้นชีส เฮ้ย! อย่าล้วงดิพี่!!”

ดาราหนุ่มโผล่มาในครัวตอนไหนก็ไม่อาจทราบได้ รู้ตัวอีกทีก็เข้ามาสวมกอดด้านหลัง เกยคางบนบ่า คริสจะไม่ว่าอะไรเลยถ้ามือแกร่งไม่ละลาบละล้วงเข้ามาในเสื้อยืดที่ทับด้วยผ้ากันเปื้อนสีเขียวเข้ม อีกนิดเดียวจะขึ้นไปแตะยอดอกแล้ว ดีที่ไหวตัวทัน จับแขนรั้งเอาไว้

หากแต่..ใช่ว่า สิงโต ปราชญา จะยอมง่ายๆ

“ม..ไม่..พี่สิง..เดี๋ยวไข่ไหม้”

“เรียกใหม่”

“สิงต้วน!! ต้วนอย่า!! พ..พอ..”

คนดื้อเงียบหัวเราะในลำคอพออกพอใจ ยอมหยุดมือที่สะกิดลูบวนลง ยอมเลิกล้วงใต้เสื้อมาสวมกอดแน่นๆจากด้านหลังอย่างเดียว คนผิวขาวกัดฟันไม่พอใจ ถอนหายใจแรง รู้ตัวดีว่าโดนแกล้งเห็นได้ชัด แต่ไอ้ครั้นจะมาโวยวายเดี๋ยวจะจบไม่สวยคาครัวเหมือนวันก่อนๆ  แล้วหันมาจดจ่อกับการใช้ตะหลิวยีไข่ข้นในกระทะต่อ

“คริส”

“อะไรพี่?”

“พี่เห็นแจ้งเตือนเมลนัดสัมภาษณ์งาน”

กึก!

มือขาวผ่องชะงักนิ่ง ไม่คิดว่าสิงโตจะแอบอ่านเมลในโทรศัพท์มือถือ ประกอบกับเสียงกระซิบเย็นข้างหูแถมยังขบเบาๆ เสียจนคนทำมื้อเที่ยงของวันขนลุกชัน

“อึก!”

“เราคุยกันแล้วไง พี่เลี้ยงคริสได้”

“แต่คริสเป็นผู้ชาย จะให้มานั่งๆนอนๆอยู่บ้านก็เอาเปรียบพี่สิงเกินไป” คริสโต้แย้งกลับไป จริงอยู่ว่าทุกวันนี้สุขสบายมาก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นแลกมากับความเหนื่อยยากในการทำมาหากินของสิงโต

พ่อแม่สอนเอาไว้ เกิดเป็นผู้ชายต้องทำมาหากิน ต้องนำครอบครัว

 

“เอาเปรียบตรงไหน คริสทำกับข้าว ดูแลพี่ ดูแลบ้านช่อง เท่าเทียมจะตาย”

“เท่าตรงไหน นั่นงานแม่บ้าน”

“เท่า”

“ไม่เท่า”

“เท่า อย่าดื้อ” คนหนุ่มผิวสองสีปรามเสียงเข้ม ไม่พอ..คราวนี้งับเข้าที่หูเต็มๆ แถมยังโลมเลียไปมา เสียงจูบกับสัมผัสชื้นแฉะสะลาวนทำเอาคริสร้องครางเบาๆ ขาอ่อนระทวยจนต้องจับแขนอีกฝ่ายไว้ยึดเหนี่ยว

“ม..ไม่..พอแล้วพี่สิง..ค..คริสไม่ไปสัมภาษณ์แล้ว..อย่า..อื้ออ”

การโต้เถียงจบลง แบบนี้ทุกที

 

สมประสงค์ที่ต้องการ สิงโตยกยิ้มมุมปากพอใจ ยอมละออกจากใบหูร้อนฉ่าแดงก่ำน่าขบเคี้ยวต่อ ก่อนจะเลื่อนมือมาจับพวงแก้มใสเปล่งปลั่งสีแดงไม่แพ้หูอันนุ่มนิ่มเต็มไม้เต็มมือ

“ดีมาก อีกอย่างนะ เทียบตอนทำงานกับตอนนี้ คริสมีเนื้อมีหนังสุขภาพดีขึ้นเยอะ ออกไปทำงานให้เสียสุขภาพจิตทำไม”  นอกจากนำเสนอข้อดีในมุมมองของพี่แกแล้ว ยังดึงแก้มยืดออกบีบหนุบหนับไปมา “แถมมีแก้มด้วย”

“พอเลย! หยุด! ไปรอที่โต๊ะเลย!!”  คริสโวยเสียงดัง ปัดมือคนอีกฝ่ายออกจากแก้มตัวเอง มองค้อนทำหน้าดุถือตะหลิวชี้ไปยังห้องอาหาร คนโดนว่ากลับยักไหล่กวนบาทาแต่ก็ยอมถอยออกไปจากครัวทิ้งท้ายเสียงหัวเราะอันน่าหมั่นไส้เต็มประดา

คริสยอมแพ้ เอาชนะสิงโตไม่ได้เลย

.

.

.

“พี่สิง จะใส่ตัวไหน”

“เชิ้ตสีเทากับกางเกงดำ”

“โอเค” ตู้เสื้อผ้าเปิดออก คริสกวาดตามองครึ่งนึงของเสื้อผ้าฝั่งขวาของอีกฝ่ายที่เน้นโทนขาวดำเทาวนเวียนอยู่แค่นี้ตรงข้ามกับฝั่งซ้ายของเขาที่หลากหลายสีสัน

“เรียบๆใช่ไหมพี่”

“อืม”

 ตะโกนถามคนที่อาบน้ำอยู่ต่อ พลางไล่มือหาเสื้อเชิ้ตตัวดังกล่าวจนเจอ ถามเหมือนสมัยแต่งงานครั้งแรก

เพียงแต่ไม่เหมือนเก่าด้วยความรู้สึกอันล้นพ้น

 

คริสหยิบเสื้อและกางเกงมารีดผ้าให้เรียบร้อยจนเรียบกริบ เนี้ยบไร้ที่ติก่อนนำมาแขวนด้วยไม้แขวนเสื้อแล้วกลับมานั่งที่เตียงกว้างสำหรับสองคน มือหยิบเอากรอบรูปบนหัวเตียงขึ้นมาดู รูปตั้งแต่สมัยเข้าวงการใหม่ๆ พวกเขากอดคอกันด้วยสายสัมพันธ์ ‘พี่น้อง’ จนกระทั่งมายังรูปคู่อีกกรอบหนึ่งในชุดสูทเจ้าบ่าวสีขาวสะอาดหน้าซุ้มดอกลิลลี่ขาวแซมดอกฟรีเซียสีม่วง ณ ริมทะเล ดาราหนุ่มผิวสองสีโอบกอดอดีตดาราผิวขาวเอาไว้แนบแน่น ดวงตาคมที่ไม่ยอมหันไปมองกล้อง เอาแต่มองคนในอ้อมแขนสื่อความรู้สึกที่เจ้าตัวเน้นการกระทำนักหนาออกมาชัดเจน ส่วนตัวเขาเองก็มองตอบทั้งรอยยิ้มสุขใจ

มงกุฎดอกฟรีเซียสวมบนศีรษะคนทั้งสอง

มากมายความหมาย บรรจบเป็น ‘งานวิวาห์ของจริง’

 

ปากเรียวขยับยิ้มน้อยๆ มองมือของพวกเขาในรูปสวมแหวนทองคำบนนิ้วนางซ้ายแบบเดียวกัน แหวน..ถูกสวมใส่ในงานแต่งเรียบง่ายไม่หวือหวา เชิญเพียงคนใกล้ชิดสนิทสนมมาในงาน

 

นิยามของงานวิวาห์ ไม่ใช่ค่านิยมทางสังคม

แต่เป็นค่านิยมของความรัก

ประตูห้องน้ำเปิดออกตามด้วยเสียงพลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่หน้าตู้ทำให้คริสวางกรอบรูปคู่คืนที่เดิม เตียงยวบยุบลงพร้อมกับการมาของคนหนุ่มอีกคนที่สวมแหวนไว้บนนิ้วนางซ้ายเช่นกัน

“คริส ช่วยพี่ซ้อมหน่อย” สิงโตส่งบทละครให้คริส เขารับมาอ่านทวนฉากที่ต้องเข้ากับดาราสาวที่เคยประกบคู่ในละครคุณแม่วัยใสอย่างน้องเจนที่ต้องรับบทนางเอกคู่กับสิงโต คิ้วเรียวขมวดมุ่นอ่านบทตรงหน้าก่อนเหลือบตาไปยังหน้าคมคายหล่อเหลายิ้มหวานอยู่ข้างกาย

 “ท่องมาดีแล้วเหรอถึงมาซ้อม”

“ดีแล้ว” กระตือรือร้นเป็นพิเศษ ไหนจะสายตาวิบวับนี่อีก

ไม่โอเคเลยจริงๆ ยิ่งเห็นบทแล้วยิ่งไม่โอเคมากด้วย

หากเปรียบชีวิต ณ เวลานี้เป็นดั่งซีรีย์ Sotus ก็คงได้ ในเมื่อสิงโตยิ้มระยิบระยับแฝงเจ้าเล่ห์นิดๆเหมือนก้องภพก็ไม่ปาน ส่วนคริสในตอนนี้กลับหน้าบูดเหมือนพี่อาทิตย์เช่นกัน ถึงจะเข้าใจว่าเป็นอาชีพก็เถอะ ไอ้ครั้นจะเทอีกฝ่ายมันก็ไม่ได้อยู่ดี แต่ไหนแต่ไรก็ช่วยกันมาตลอด ถึงคริสจะไม่ได้เป็นดาราแล้วก็ตาม

“ที่ผ่านมา คิดว่ากิ่งจะให้อภัยดินเหรอ?”

จำต้องมารับบทนางเอกของเรื่องชื่อ ‘กิ่ง’ ด้วยความสามารถที่มีติดตัวไม่เคยไปไหน อ่านปราดเดียวก็จำได้และเข้าถึงตัวละครที่ชื่อกิ่ง เสมือนว่าคริสในตอนนี้เป็นหญิงสาวนามว่ากิ่ง  นัยน์ตาคู่คมสบตาตัดพ้อของคนรักที่ยอมช่วยซ้อมไม่วางตา มือแกร่งวิสาสะเข้ามาจับมือซ้ายของเอาไว้ด้วยมือซ้ายของตัวเอง แหวนแต่งงานกระทบกันเสียงกังวาน

“แต่ก็ไม่หนีนี่ ต่อให้หนี..” เขยิบเข้ามาใกล้ “ดินก็ไม่ปล่อยกิ่งไป”

คนผิวขาวจัดร่นถอยหลังการคุกคามของสิงโตในบทพระเอกชื่อดิน ต่อให้คริสไม่ได้เป็นกิ่ง ถ้าเจอแบบนี้เป็นเขาก็ถอยเช่นกัน สายตาคมกริบวิบวับอันตรายอย่างอวดดีหมายมั่นเอาชนะ กระนั้นก็ส่อแววรักต่อคนที่เขยิบหนีจนหลังชนกับหัวเตียง

“โอเคพี่ ผ่านแล้วเนอะ นอนกันดีกว่า” คริสบอกปัด ทว่าสิงโตกลับเอามือเท้าหัวเตียง ล็อคไม่ให้หนี

อะไรอีกกกกก

“ไม่นอน ดินบอกแล้วไง ดินไม่ปล่อยให้กิ่งหนี” ไม่พูดพร่ำทำเพลง สิงโตประกบจูบทันที บดขยี้ขบเม้มกลีบปากสีชมพูไปมาโดยไม่สนว่าจะเจ้าของบทกิ่งจะตกใจกับเซอร์ไพรส์กะทันหัน พออีกฝ่ายเผยอปากหมายจะหายใจ เขารีบสอดลิ้นเข้าไปหยอกล้อลิ้นน้อยๆในด้าน

รสจูบทำเอาอุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้นทั้งที่เป็นช่วงค่ำคืน

“ด..ดิน..” หัวสมองอื้ออึงแต่ยังตั้งสติให้อยู่กับบทที่ได้รับ

“เรียกสิงต้วน”

“ห้ะ!?”

จะถามว่าทำไมอยู่ ไหนว่าซ้อมไง แต่สิงโตกลับปัดไล่ชื่อบทตัวเองออกแล้วยัดชื่อเรียกเฉพาะที่คริสตั้งให้มานมนานเสียอย่างนั้น ริมฝีปากหนากระซิบย้ำ เร่งรัดข้างใบหูร้อนฉ่าจนรู้สึกจั๊กจี้และวูบวาบในอก

“เร็วๆ คริส”

“สิงต้วน”

เรียกนามอีกฝ่าย ทั้งตาปรือและพร่ามัวนักจากจูบก่อนหน้านั้น ปากหนาได้รูปยิ้มมุมปากก่อนขบติ่งหูเบาๆเรียกเสียงครางหวานดังออกมา “ต..ต้วน..ไม่เอา..”

“เอาเถอะ บทมันเป็นแบบนี้นะ ช่วยพี่หน่อย” กระซิบขอทั้งเสียงแหบพร่า กดจูบบนแก้มขาวนิ่มมีเนื้อหนังเหมือนอดีต สูดดมกลิ่นหอมสบู่แบบเดียวกันก่อนไล่ลงมายังลำคอ

..ปลดเปลื้องอาภรณ์..กลิ่นกายหอมยิ่งคละคลุ้ง..

“หอมจัง” จมูกโด่งฝังลงบนเนื้อนิ่มขาวผ่องเห่อร้อนเป็นสีชมพูระเรื่อดั่งผิวลูกท้อ ขบกัดเบาๆทุกพื้นที่จนเกิดร่องรอยสีกุหลาบตามตัว สัมผัสรุกไล่สาละวนทั้งกายจนเจ้าของร่างเชิดหน้าขึ้นตามอารมณ์พุ่งพล่าน ปล่อยให้คนเบื้องบนปรนเปรอไป

“คริส..ร้อน..”

“พี่รู้..พี่ก็ร้อนมาก”

เรียวขาขาวยาวโดนจับแยกออก ตาเรียวฉ่ำเยิ้มมองดาราหนุ่มที่โด่งดังที่สุดของประเทศไทย ชายที่ใครก็อย่างอิงแอบแนบชิดอยู่ตรงหน้ากำลังพรมจูบต้นขา..จากหัวเข่าไล่ลงไปขาด้านใน

ยามราตรีกลับร้อนเสียยิ่งกว่ากลางวัน

“ส..สิงต้วน..กอดคริสที” วอนขอด้วยแรงปรารถนา วอนขอไออุ่นทั้งที่ร้อนแทบบ้า สิงโตเลียริมฝีปากและสนองคำขอนั้นทันที ห้องนอนสี่เหลี่ยมดังลั่นไปด้วยเสียงครางหวานสุขสันต์ เนื้อกระทบกันหยาบโลนระคนหอบหนัก สลับเสียงทุ้มแหบพร่ากระซิบเรียกชื่อฝ่ายตรงข้าม และเสียงโลหะกังวานกระทบกันของแหวนคู่

 

 

ดำเนินสัญลักษณ์ SK อย่างเร่าร้อน

.

.

.

หลายเดือนต่อมา ละครที่สิงโตและเจนรับบทเล่นออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่อง one ในทุกวันเสาร์ คริสในชุดเสื้อยืดสีแดงขับผิวขาวนั่งกินเลย์ไปพลางดูทีวีไปพลาง ดูผลงานการแสดงของคนรักและน้องสาวคนสนิทในวงการบันเทิงตั้งแต่ตอนแรกจนถึงตอนอวสานซึ่งฉายในวันนี้

ดินโอบกอดกิ่งให้พิงอก ทั้งสองทอดมองวิวไร่ชาเบื้องล่างจากเนินเขาใต้ท้องฟ้ายามเช้าแรกอรุณ อบอวลด้วยไอรักชวนซาบซึ้งตรึงใจ พร้อมตัดฉากเข้าสู่คำว่า ‘จบบริบูรณ์’

ปิ๊บ!!

จอทีวีดับวูบหลังคริสกดรีโมทปิดลง ปากเรียวสีชมพูขยับเคี้ยวแผ่นมันฝรั่งทอดกรอบไปมาทั้งสีหน้าฉงนสนเท่ห์

“แปลก”

คิ้วเรียวขมวดมุ่นงุนงง เลื่อนตาไปยังเจ้าของบทดินที่เอาแต่ถ่ายดอกกล้วยไม้ในอยู่สวนและฮัมเพลงอารมณ์ดี ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าโดนคนในบ้านแอบมองอยู่ คริสมองจอทีวีสลับสิงโตก่อนหยิบเอาเลย์ในถุงอีกชิ้นเข้าปากเคี้ยวกรุบกรับ

“ไอ้ฉากที่ซ้อมกับกูหายไปไหนวะ?”

END

 

++++++++++++++++++

 

เหลือสเปอีก 3 ตอนเด้อ ขยายเพิ่มเติมจากฟิคสดอีกแล้ว

มีไรคุยกันในทวิตได้ที่แทค #bloodhana #symbolic เด้อ

ไปก่อนนะคะ บายจ้า

1 Comments

ใส่ความเห็น